กัน จอมพลัง ประสาน พม. ช่วยเด็ก 8 ขวบถูกบังคับขโมยเงิน ด้านแม่เด็กอ้างไม่รู้ไม่เห็นลูกก่อเหตุ

จากกรณีผู้เสียหายโพสต์ลงโซเชียล ว่าโดนโจรเด็กอายุ 9 ปี บุกปีนบ้านตอนกลางคืน ขโมยเงินสดไป 33,400 บาท ตำรวจทำอะไรไม่ได้เพราะมีกฎหมายคุ้มครองเด็ก โดยตำรวจบอกว่าเคสนี้ทำอะไรเด็กไม่ได้เพราะมีพรบ.คุ้มครองเด็กอยู่ ส่วนผู้ปกครองเด็กไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะตำรวจไม่มีหลักฐานสาวถึงตัวผู้ใหญ่ (มีแค่คำสารภาพจากเด็กว่ามีผู้ใหญ่พาไปขโมย) พ่อแม่เด็กเสนอชดใช้ให้(ตามจริยธรรม)เป็นเงินเดือนละ 1,000 บาท ซึ่งพ่อแม่เด็กจ่ายให้แค่ 2,000 บาท หลังจากนั้นก็ติดต่อพ่อแม่เด็กไม่ได้อีกเลย

ล่าสุดวันนี้ 6 ตุลาคม 2566 ทีมข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บริเวณชุมชน สาครปานสินธุ์ ซอย 2 หมู่บ้านอรุณทอง 5 ซอย 2 ซึ่งเป็นร้านส่งพัสดุ ที่ผู้เสียหายถูกเด็ก 8 ขวบปีนบ้านบุกเข้าไปขโมยเงิน 33,400 บาท

โดยทีมข่าวได้พบกับนายสิทธิ หรือ ฟลุ๊ค อายุ 27 ปี เจ้าของบ้าน ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 ต้นมาทำงานตามปกติก่อนจะเห็นว่าเงินที่อยู่ในเก๊ะชั้นล่าง หายไปทั้งหมด 33,400 บาท เมื่อตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิด จึงเห็นว่า คืนวันที่ 12 มี.ค. 66 เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ได้บุกเข้ามาภายในบ้านของตน โดยมีการแอบปีนเข้ามาที่ซอกตึกด้านหลัง ปีนขึ้นมาที่ชั้น 2 เเละเดินลงมาชั้นล่าง ขโมยเก่ะเงิน ตรงมีโทรศัพท์เเละสิ่งของมีค่าอื่นๆ เเต่น้องก็เอาไปเเค่เงินสด ก่อนจะเดินกลับขึ้นมาที่ชั้นสองอีกครั้งและยื่นเงินส่งให้กับบุคคลบางคนที่รอรับเงินอยู่ด้านนอกตึก โดยเด็กใช้เวลาขโมยของทั้งหมด 4 นาทีเท่านั้น

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ภายในซอยเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ 8/3 ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร โดยทีมข่าวได้พบกับนางหัทยา ผู้เป็นแม่ของเด็กผู้ก่อเหตุ พร้อมกับเด็กหญิงวัย 8 ขวบ และเด็กชายวัย 3 ขวบ อาศัยอยู่ภายในห้องเช่า โดยนางหัทยา เปิดใจกับทีมข่าวว่า ตนไม่รู้และไม่เกี่ยวข้องกับเงิน 3 หมื่นที่หายไปแต่อย่างใด และไม่รู้ว่าเงินไปอยู่ที่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยสั่งสอนให้ลูกของตนไปขโมยของตามบ้านของใคร และตนไม่เคยสอนให้ลูกของตนเป็นคนแบบนี้

ซึ่งที่ผ่านมาตนห้ามจนปากเปียกปากแฉะ ด่าก็แล้วตีก็แล้ว จนตนไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตนเองก็ไม่มีเวลาเลี้ยงดู แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้เพียงแค่ว่า มีผู้ใหญ่คนนึงที่ลูกทั้งสองคนของตนจะชอบไปสุงสิงอยู่ด้วย และก็เป็นคนที่ตนรู้จักดี โดยยอมรับว่าตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนไปชดใช้เจ้าของบ้านที่ลูกของตนเข้าไปขโมย ตนเครียดมาก เพราะตนก็หาเช้ากินค่ำ และถ้ามีหน่วยงานมาเอาลูกของตนไปรับเลี้ยงดู ตนก็ไม่เอา เพราะตนเลี้ยงลูกของตนมาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ จะยอมให้ปล่อยลูกให้คนอื่นไปเลี้ยงได้อย่างไร

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับยายปุ้ย ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณหน้าซอยของบ้านเด็กหญิงวัย 8 ขวบ โดยยายปุ้ย หรือนางสุปราณี เล่าว่า ตนยอมรับว่าตนรู้จักกับเด็กหญิงวัย 8 ขวบ และผู้เป็นแม่จริง ซึ่งเมื่อก่อนนี้ก็จะไปที่บ้านของเด็กหญิงวัย 8 ขวบเป็นประจำ แต่ตนยืนยันว่าตนไม่เคยบังคับให้เด็กไปขโมยตามที่เด็กอ้างแต่อย่างใด ซึ่งตนรู้สึกโกรธมากที่เด็กกลับมาอ้างถึงตน ทั้ง ๆ ที่ตนก็เลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำกินมาตลอด ซึ่งความจริงคนที่พาเด็กไปขโมยนั้นเป็นผู้ชายที่อยู่ระแวกนี้ ที่จะคอยพาเด็กไปขโมย ไม่ใช่ตนแต่อย่างใด

ต่อมาทีมข่าวได้ประสาน คุณกัน จอมพลัง ให้ช่วยประสาน พม.เพื่อลงพื้นที่ประเมินสภาพบ้านเด็กและให้ความช่วยเหลือดูแลเยียวยาเบื้องต้น ตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น.

ต่อมาในเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สน.หนองแขม ได้เดินทางมาเชิญตัวแม่และพ่อเลี้ยงของเด็ก รวมถึงเด็กหญิงข้าววัย 8 ขวบไปที่ห้องสืบสวน สน.หนองแขม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตำรวจได้มีการเชิญตัวเเม่เด็กเเละเด็กขึ้นไปยังห้องสอบสวนชั้น 2 ของโรงพัก เพื่อรอหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานครเข้ามาพูดคุยกับเด็กและแม่ ซึ่งหลังจาก พม.เข้าไปพูดคุยกับเเม่เด็กนานร่วม 1.30 ชม. แม่เเละเด็กก็มีอาการร้องไห้ ก่อนจะยินยอมเซ็นชื่ออนุญาตให้พม.รับตัวลูกสาวไปอยู่ในความคุ้มครอง

ต่อมาเวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่พม.ได้รับตัวน้องข้าว เด็กหญิง 8 ขวบขึ้นรถเพื่อพาไปยังบ้านพักเด็ก

ทั้งนี้ นางสาวกุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร เผยว่า ตอนนี้เด็กได้เข้าอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานครแล้ว ซึ่งเรื่องการดำเนินคดีลักทรัพย์ แต่เด็กอายุไม่ถึงเกณฑ์ ก็จะต้องมีการส่งคุ้มครองสวัสดิภาพ โดยจะมีนักสังคมสงเคราะห์ทำกิจกรรมบำบัดฟื้นฟู ประเมินครอบครัวว่าเด็กมีปัญหาเรื่องพฤติกรรมเพราะอะไร จะต้องวางแผนให่เด็กกลับไปสู่สังคมได้ หากประเมินแล้วว่ากลับไม่ได้ ก็จะต้องดูอีกครั้งว่าจะต้องแก้ปัญหายังไง

ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับตัวเด็กยังคงอยู่ในอาการตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น จะต้องใช้เวลาสักนิดเพราะน้องยังเล็กมาก ซึ่งเด็กต้องเเยกกับเเม่ ก็อาจจะกังวลตกใจเชื่อว่าเด็กจะสามารถปรับตัวได้ ส่วนเเม่ก็ยินยอมแต่โดยดี แต่ก็กังวลว่าจะถูกดำเนินคดี ตนก็ได้อธิบายไปตามกระบวนการว่าเป็นการคุ้มครองและบำบัดฟื้นฟูเด็ก เพราะครอบครัวยังไม่พร้อมดูแลได้

ด้าน พ.ต.ท.วิทยา สุดสาคร รอง ผกก.สอบสวน สน.หนองแขม เจ้าของคดี เปิดเผยว่า แม่เด็กในการว่าไม่ทราบว่าเด็กเข้าไปก่อเหตุได้ยังไง ซึ่งกระบวนการสอบสวนก็จะต้องดำเนินการต่อไปว่ามีผู้ใหญ่ร่วมด้วยและใครคือผู้รับเงินจากเด็กไปหรือไม่ ทั้งนี้จะต้องให้พม.คุ้มครองเด็กไว้ก่อน ส่วนแม่เด็กมีการตรวจสารเสพติดเเล้ว แต่ไม่พบ จึงไม่ถูกดำเนินคดีอะไร แต่อยู่ระหว่างสอบสวนปากคำเกี่ยวกับเรื่องคดีลักทรัพย์ว่าจะรู้เห็นเป็นใจให้ลูกกระทำความผิดหรือไม่