"น้องมัว" อายุ 14 ปี เด็กชาติพันธุ์ แม่พามาฝากให้เรียนหนังสืออยู่กับพระที่วัดบางโฉมศรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้ 1 ปี ถูกนายปิยะพงษ์ หนองเฆ่ หรือนายพัน หรือนายบอย อายุ 35 ปี หลอกจะพาไปซื้อมือถือ และหายตัวออกจากวัดในอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ไปตั้งแต่ 16 กันยายน จนตอนนี้ยังไม่เจอตัว

ล่าสุด วันนี้ (28ก.ย.66) เมื่อเวลา 20.17 น. นายพัน ได้พาตัวน้องมัว ย้อนกลับไปที่บ้านของพ่อแม่นายพัน ที่ ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเมื่อไปถึงบ้าน แม่ของนายพัน ได้ขอให้นายพันนำตัวน้องมัว ไปส่งให้ตำรวจ แต่นายพันกลับบ่ายเบี่ยง ทางแม่ของนายพันจึงเข้าไปแย่งตัวน้องมัวออกมาจากนายพัน แล้วก็รีบโทรศัพท์ไปแจ้งกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้ทราบว่าได้ตัวน้องมัวแล้ว

จากนั้นในเวลา 20.24 น. ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจึงได้รีบเข้าไปรับตัวน้องมัว ขึ้นรถ ซึ่งในขณะนี้ตำรวจกำลังเข้าล้อมบ้านของนายพัน เพื่อทำการเกลี้ยกล่อมให้นายพันมอบให้ โดยวันนี้ในขณะที่ทีมข่าวกำลังเดินทางไปที่จังหวัดปราจีนบุรี จึงได้มีการวิดีโอคอล ไปสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งน้องมัว ที่ยังอยู่ในอาการหวาดผวา บอกกับทีมข่าวว่า จำได้หมดว่านายพัน พาไปที่ไหนบ้าง ระหว่างที่อยู่กับนายพัน ถูกนานพันตี และตบหน้า กระทั่งทีมข่าวได้ถามย้อนกลับไปว่า วันเกิดเหตุทำไมถึงนั่งรถออกมากับนายพัน แต่ปรากฏว่า ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านยังไม่สามารถให้ทีมข่าวคุยต่อได้ เนื่องจากต้องส่งตัวน้องมัวให้ตำรวจก่อน

ล่าสุดเมื่อเวลา 20.45 น. ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แจ้งกับทีมข่าวว่า ตอนนี้ทางตำรวจรวบตัวไอ้พัน ได้แล้ว โดยขณะนี้ตำรวจกำลังนำตัวไอ้พัน กลับไปที่ สภ.ประจันตคาม ส่วนสภาพจิตใจของน้องมัว ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า น้องมัว มีความต้องการอย่างแรก คืออยากคุยกับแม่ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังโทรศัพท์ติดต่อไปหาแม่น้องมัว

หลังเจอน้องมัว เจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์หาแม่น้องมัว ให้พูดคุยกัน โดยน้องมัวเหมือนยังอยู่ในอาการหวาดกลัว นั่งก้มหน้าร้องให้พูดคุยกับแม่ ด้วยภาษาม้ง (ฟังไม่รู้เรื่อง) โดยผู้เป็นแม่มีน้ำเสียงดีใจ ถามสารทุกข์สุขดิบลูกชาย แต่น้องมัวก็ไม่ค่อยตอบอะไร ก้มหน้าร้องไห้ และใช้เสื้อเช็ดน้ำตา

นายวรฉัตร นิยมสุข ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่เข้าไปรับตัวน้องมัวออกมาจากบ้านนายพัน ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า หลังจากพาน้องมัวมาที่โรงพัก น้องมัวได้คุยกับแม่แล้ว แต่น้องมัวยังมีอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเท่าที่คุยกับน้องมัว น้องมัว บอกว่า ตลอดเวลาที่ถูกลักพาตัวมา ถูกทำร้ายร่างกาย ไม่ได้กินข้าว ต้องหลับนอนอยู่ในป่า โดยได้กินแต่หน่อไม้ ซึ่งน้องมัว นับวันเวลาถูกต้องว่าถูกนายพันลักพาตัวมากี่วัน ยิ่งไปกว่านั้น ในวันที่ทีมข่าวช่อง 8 ไปบินโดรน ที่ป่าข้างบ้านนายพัน น้องพัน ยังบอกว่าได้บินเสียงโดรนของช่อง 8 แต่พอจะวิ่งหนีออกมาตามเสียงโดรน กลับถูกนายพัน ดึงแขนเอาไว้บังคับไม่ให้เดินออกมาจากป่า ซึ่งน้องมัว ชี้ว่าใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อมที่ช่อง 8 สงสัยในวันนั้น และได้ยินเสียงคนที่มาตามหาตลอดเวลาแต่ไม่สามารถส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือได้

โดยวันนี้ นางจินดา 36 ปี ซึ่งเป็นแม่ของน้องมัว เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ลูกถูกลักพาตัว เพราะร้อนใจ เนื่องจากลูกหายไปนานกว่า 12 วันแล้ว

แม่น้องมัวบอกว่า วันนี้มาสอบถามความคืบหน้ากับตำรวจ สภ.อินทร์บุรี ก็ยังไม่มีเบาแสแน่ชัด เบาะแสครั้งล่าสุดที่ตำรวจติดตามได้ ก็คือวันที่ 20 กันยายน ที่น้องนายพันพาน้องมัวขึ้นรถตู้ในจังหวัดนครนายก ที่ลุยชนข่าวเคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้

ตอนนี้ แม่น้องมัวทุกข์ใจมาก ไม่รู้ลูกเป็นตายร้ายดีอย่างไร จึงอยากวอนขอให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ลงมาช่วยดูคดีนี้ เมื่อถามว่าอยากให้ตำรวจนายไหนมาช่วยดูคดี แม่น้องมัวบอกว่า ขอให้บิ๊กโจ๊ก มาช่วยดูคดีนี้ ได้ไหม

ภายหลังจากที่ช่วยน้องมัวได้แล้ว ทีมข่าวช่อง8 วิดีโอคอลคุยกับนางจินดา แม่ของน้องมัว โดยนางจินดา กล่าวขอบคุณทุกคน และทุกหน่วยงาน ที่ช่วยตามหาน้องมัวจนเจอ

เจอแล้ว! น้องมัวเด็กม้งหายปลอดภัย แม่ไอ้พันชี้เป้าสุดทนลูกเลวแนะ ตร.รีบเอาผลงาน