จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ตัน หยง ได้นำเรื่องราวมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับรูปเหมือนเป็นหลุมดินที่ถูกขุดด้วยจอบ นอกจากนี้ยังมีรูปลูกชายวัย 8 ขวบของเธอด้วย โดยได้ระบุว่า "ขอความช่วยค่ะ มีใครแนะนำได้บ้าง คดีไม่คืบหน้ามา 3-4 วัน เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 26 สิงหาคม ลูกหนูโดนถมทั้งเป็น แต่คดียังไม่คืบหน้า คนร้ายลอยนวล หลักฐาน พยานบุคคลครบ ให้สอบปากคำกับตำรวจแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า หนูอยากให้คนร้ายได้ชดใช้กรรม ผู้ใหญ่บอกให้รอ หนูรอไม่ไหวแล้ว คดียังไม่ไปไหน ขอให้ลูกหนูได้รับความยุติธรรม เอาคนร้ายเข้าคุกให้ได้ จิตใจทำด้วยอะไร เด็กไม่รู้เรื่อง หลานตัวเองแท้ๆ ไม่ยอมแน่นอน"

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวช่อง8ได้เดินทางมาที่บ้านที่เกิดเหตุ อยู่บ้านหนองตานา ตำบลท่าช้างคล้อง อำเภอผาขาว จังหวัดเลย โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานดินหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเชือกกันมากันที่เกิดเหตุไว้

แต่จากสังเกตตรงจุดเหตุยังมีกองดิน ซึ่งอยู่ข้างโอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่นายวรุฒ หรือ โอ๊ก อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นอาเขยขุดขึ้นมา เพื่อฝังกลบเด็กชายเอ อายุ 8 ขวบกองอยู่ ซึ่งจากการสังเกตลักษณะกองดิน มีความกว้างประมาณ 1 เมตร ความยาว 1.50 เมตร


น.ส.ตันหยง ศรีปทุม อายุ 24 ปี แม่ของเด็กพาไปดูตรงจุดเกิดเหตุ พบว่ายังมีกองดินที่ผู้ก่อเหตุขุดเพื่อจะทำการฝังกลบเด็กชายวัย 8 ขวบกองอยู่ ซึ่งช่วงที่นักข่าวลงพื้นที่ นายอำเภอผาขาว รวมทั้ง พม.จังหวัดเลย ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัวของเด็กผู้เสียหายด้วย

น.ส.ตันหยง เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 22 สิงหาคม แต่เธอมาทราบเรื่องจากพี่ชาย ที่ได้โทรศัพท์มาบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับลูกชายของเธอ ในวันที่ 25 สิงหาคม หลังจากนั้นวันที่ 26 สิงหาคม เธอได้โทรศัพท์มาสอบถามฝั่งของน้องสะใภ้ ที่ดูแลลูกของเธออยู่ ซึ่งผู้ก่อเหตุชื่อว่า นายวรุฒ หรือนายโอ๊ก บอกกับเธอในทำนองว่า “ไปฟังเรื่องมาจากไหน….แต่งเรื่องขึ้นมาหรือเปล่า” นอกจากนี้นายโอ๊กมีการด่าทอเธอด้วย

น.ส.ตันหยง บอกว่า พยายามซักถามเรื่องราวจากน้องสะใภ้และนายโอ๊กอย่างละเอียด แต่นายโอ๊กบอกกับเธอแต่เพียงว่า ที่ทำไปมีเจตนาเพียงจะสั่งสอนลูกของเธอเท่านั้น เธอบอกกับเราด้วยว่า เธอเพิ่งจะเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุในวันนี้ และต้องการที่จะมารับลูกไปด้วยตัวเอง เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูก

ส่วนที่หลายคนอาจกล่าวหาเธอว่า ทำไมไม่มาดูลูกตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุล่ะ น.ส.ตันหยง บอกว่า ที่เธอไม่ได้มาดูลูกเพราะมีผู้ใหญ่ที่ไม่สามารถบอกชื่อได้มาบอกให้เธอปิดข่าวเรื่องนี้ โดยส่วนตัวอยากให้ตำรวจดำเนินการกับผู้ก่อเหตุถึงที่สุด


จากการสอบถามนางทองจา อายุ 56 ปี ชาวบ้าน ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คืนวันที่ 22 สิงหาคม 66 เวลาประมาณ 22.00-23.00น. ขณะที่ตนเองกำลังผักพ่อน ได้ยินเสียงเด็กชายนิว ต้องตะโกนว่า"พ่อครับผมขอโทษ" "ผมยอมแล้ว" อย่าทำผมเลย" จากนั้นก็ได้ยินเสียงนายวรุฒ หรือโอ้ก ผู้ก่อเหตุ ตะโกนบอกให้เด็กชายเอ นอนลงไป "นอน มึงนอนลงไปเลย" ขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงเด็กชายนิวร้องอ้อนวอนขอชีวิตกับนายวรุฒ ผู้ก่อเหตุ ว่า "อย่าทำผมเลย ผมกลัวแล้วพ่อครับ" "ผมกลัวแล้ว" "ผมไหว้แล้วครับ" สักพักเสียงก็เงียบไป ไม่ถึง 10 นาที

ตนเองเห็นผิดสังเกตจึงได้เดินไปที่บ้านนายวรุฒ เพื่อถามหาเด็กชายเอว่าอยู่ไหน ซึ่งนายวรุฒก็ตอบกลับมาว่าอยู่หลังบ้าน ตนเองจึงได้ถามกลับไปอีกว่า เอาเด็กไปไว้หลังบ้านทำไม ซึ่งนายวรุฒผู้ก่อเหตุ อ้างว่า เอาไปสั่งสอน เพราะเด็กชายเอชอบแกล้งน้องคนเล็ก จากนั้นตนเองจึงได้เดินตามหาเด็กชายเอกับเมียผู้ก่อเหตุและเพื่อนบ้านอีกคน

ซึ่งในระหว่างที่ออกตามหาเด็กชายเอ ตนเองก็ได้ถามนายวรุฒผู้ก่อเหตุอีกครั้งว่าเอาเด็กชายเอไปไว้ไหน แต่นายวรุฒกลับปฏิเสธว่าไม่รู้ ตนเองก็ได้ถามย้ำกลับไปว่าเอาเด็กไปไว้ไหน นายวรุฒผู้ก่อเหตุจึงได้เอ่ยปากบอกกับตนเองว่า"เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็เจอเองละ" ตนเองก็ถามกับไปว่า"ยังไม่ได้ฆ่าเด็กใช่ไหม" ตนเองและเพื่อนบ้านก็ได้พยายามเค้นถามนายวรุฒผู้ก่อเหตุว่าเอาเด็กไปไว้ที่ไหนจนกระทั่งนายวรุฒผู้ก่อเหตุรับว่าเอาเด็กไปฝังไว้ที่ข้างโอ่งน้ำหลังบ้าน

ตนเองและเพื่อนบ้านรวมไปถึงเมียของผู้ก่อเหตุก็ได้พากันไปดูจุดที่นายวรุฒผู้ก่อเหตุสารภาพ พบกองดินมีลักษณะเนินดินไม่สูงมาก คล้ายกับเตาเผาถ่าน ซึ่งจากสังเกตดินได้ฝังกลบเด็กจนมิด มองไม่เห็นตัวเด็ก เห็นแต่มือเท่านั้น

จากนั้นจึงได้ช่วยกันใช้มือขุดเด็กขึ้นมาซึ่งในตอนนั้นเด็กชายเอเริ่มจะไม่ได้สติแล้ว แต่ยังหายใจ จึงได้รีบพากันนำเด็กไปอาบน้ำก็ยังพบว่าเด็กไม่ได้สติ จนกระทั่งผ่านไปสักพักเด็กก็เริ่มได้สติ

ซึ่งในระหว่างที่กำลังช่วยเหลือเด็กตนเองเห็นนายวรุฒผู้ก่อเหตุเดินเข้าไปในบ้านและเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าลักษณะคล้ายกับเตรียมจะหลบหนี จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มายังที่เกิดเหตุ

ส่วนเรื่องที่นายวรุฒผู้ก่อเหตุอ้างว่าทำไปเพื่อสั่งสอนเด็กตนเองไม่เชื่อ เพราะเด็กชายเอไม่ได้ดื้อมาก ก็จะดื้อตามประสาเด็กเท่านั้น

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้คุยกับนายวรุฒ ผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า วันเกิดเหตุตนเองยอมรับว่าเมาสุรา แต่ก็พอยังมีสติอยู่บ้าง ซึ่งวันนั้นเด็กชายเอได้แกล้งลูกชายคนเล็ก อายุ 1ขวบ 7เดือน ซึ่งเป็นลูกติดภรรยาอีก เพราะก่อนหน้านี้เด็กชายเอก็เคยแกล้งน้อง โดยการให้เอามือลูกชายคนเล็กไปจับอวัยวะเพศของเด็กชายเอ ตนเองก็เคย ตักเตือนไปแล้วหลายครั้งซึ่งเด็กชายเอก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก

เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองกลัวว่าภรรยาจะไปตีเด็กชายเอ จึงได้บอกภรรยาว่า"อย่าไปทำมัน" หลังจากนั้น ตนเองก็อุ้มเด็กชายเอไปหลังบ้าน พร้อมกับถือมีดดายหญ้าไปด้วย และบอกให้เด็กชายเอยืนรอก่อน ส่วนตนเองไปถึงได้ทิ้งมีด แล้วกลับมาเอาจอบไปถางหญ้า แต่ไม่ได้ขุดหลุม หลังจากนั้นตนเองบอกให้เด็กชายเอนอนลงและบอกว่า “ไม่ต้องร้องไห้”

หลังจากเด็กชายเอนอนตรงจุดเกิดเหตุ ตัวเองบอกว่า “จะทำน้องอีกไหม” ซึ่งเด็กชายเอบอกว่า “จะไม่ทำแล้วครับ” พอเด็กพูดแบบนั้นตัวเองก็เอาดินมากลบเด็ก ซึ่งเด็กชายเอ ก็พยายามยืนยันว่าจะไม่แกล้งน้องแล้ว เสร็จแล้วตัวเองก็เดินเข้าบ้าน ขอยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้ใช้ดินกลบหน้า แต่กลบเพียงร่างกายเท่านั้น เจตนาที่ทำไปเพียงเพื่อต้องการจะสั่งสอนเท่านั้น สุดท้ายคนข้างบ้านเดินมาเห็นแล้วบอกว่าจะแจ้งตำรวจ ตัวเองจึงไปเก็บเสื้อผ้าแล้วไปนั่งรอตำรวจที่หน้าบ้าน ซึ่งหลังจากที่เด็กชายเอไปอาบน้ำเนื้อตัวก็ยังขาวสะอาดและปกติอยู่ และวันนั้นตำรวจบอกว่าเป็นแค่เรื่องภายในครอบครัว ก่อนที่ตำรวจจะกลับไป

นายวรุฒ ยังบอกอีกว่า ตัวเองเลี้ยงเด็กชายเอมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตอนนี้ผูกพันกับเด็กเหมือนลูกแท้ๆ และมีความคิดที่จะรับเด็กชายเอไปเป็นลูกบุญธรรม ที่ผ่านมายอมรับว่าเคยตีเด็กชายนิวบ้าง เพราะเด็กชอบไปขโมยเงินตัวเองและเพื่อนบ้าน ส่วน น.ส.ตันหยง แม่เด็ก ก็ไม่เคยมาดูลูกเลย เงินก็ไม่ส่งมาให้สักบาท ซึ่งเรื่องทางคดีตัวเองยอมรับทั้งหมด ขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายลูก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่น.ส.ตันหยง พบกับลูกชายวัย 8 ขวบ ปรากฏว่า ลูกกลับจำหน้าแม่ไม่ได้ จนคุณครูไม่กล้าให้เด็กกลับบ้านด้วย ทำให้นางสาวตันหยง ถึงกับร้องไห้

โดยนางสาวตันหยง เล่าว่า เด็กชายเอ ถามอะไรก็ไม่ตอบ คาดว่าสาเหตุมาจากที่ลูกโดนกระทำจนมีสภาพจิตใจที่เปลี่ยน กลัว ลังเล และวิตกกังวล ไม่พูดจาเปลี่ยนไปคนละคน ต่อไปจะต้องประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก เพื่อมารับลูกไปฟื้นฟูจิตใจให้ดีขึ้นก่อน ก่อนที่รับตัวไปอยู่ด้วยกันที่ จ.ชลบุรี

ส่วนทางด้านน.ส.อิศริญา อายุ 25 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองยอมรับว่านั่งดื่มสุรากับสามีอยู่ที่หน้าบ้านหลัง จากนั้นสามีก็ได้ยินเรื่องที่ตนเองเล่าให้กับเพื่อนฟังว่าเด็กชายเอแกล้งลูกชายคนเล็กอีกครั้ง โดยการเอามือไปจับที่อวัยวะเพศของเด็กชายนิว ตนเองจึงได้โมโห และตะโกนด่าเด็กชายนิวพร้อมกับร้องไห้ สามีตนเองเห็น จึงโมโหและได้นำเด็กชายเอไปสั่งสอน โดยยืนยันว่าสามีของตนเองไม่ได้ฝังกลบเด็กชายเอ แต่เป็นเพียงแค่การนำดินมาโปะๆตามร่างกายเท่านั้น

ก่อนหน้านั้นเมื่อสองเดือนที่แล้วพ่อของเด็กชายเอ มารับลูกชายไปอยู่ด้วยที่กรุงเทพแต่ก็อยู่ได้ประมาณ 17 วันก็ส่งลูกชายกลับมาที่จังหวัดเลยโดยให้เดินทางมากับรถทัวร์คนเดียวหลังจากนั้นตนเองก็เลยตัดสินใจว่าจะรับเด็กชายตามาเป็นลูกบุญธรรมแต่ยังไม่ได้ทันเซ็นที่จะรับเป็นลูกบุญธรรมพ่อแท้แท้ของเด็กชายเอก็ไม่ยอมเซ็นเอกสารโอนเด็กให้กับตนเองโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ

นอกจากนี้ น.ส.อิศริญา ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมาตนเองและสามีเลี้ยงดูเด็กชายเอมาเป็นอย่างดีไม่เคยให้ขาดความอบอุ่น อยากได้อะไรตนเองก็หามาให้ ตนเองและสามีดูแลเด็กชายเอดีกว่าพ่อและแม่แท้ๆอีก

แต่ก็ยอมรับว่าเด็กชายเอเป็นเด็กที่ดื้อและชอบแกล้งลูกชายคนเล็กของตนเอง สามีของตนเองจึงต้องสั่งสอนไม่ให้เด็กชายเอแกล้งน้องอีก

ต่อมาเราได้มาสอบถามเด็กหญิงเอ็ม อายุ 13 ปี คนที่เข้าไปช่วยเด็กชายเอในวันเกิดเหตุ โดย เด็กหญิงเอ็มได้เล่าให้เราฟังว่าวันเกิดเหตุตนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เข้าไปช่วยหาเด็กชายเอ และก็ได้เห็นกองดิน ลักษณะคล้ายกับเตาเผาถ่าน ความสูงขนาดเท่าหัวเข่า ความกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งคาดว่าน้องน่าจะนอนตะแคงและก็ขดตัวอยู่ในหลุม โดยในตอนนั้นตนเองก็ไม่แน่ใจว่าหลุมลึกขนาดไหน เพราะพอเห็นกองเนินดินตนเองก็รีบใช้มือ 2 ข้าง เกลี่ยดินที่ฝังกลบร่างน้องออก และก็รีบพาน้องไปอาบน้ำ

ขณะที่นายวิเชียร ปู่เด็กชายเอ เล่าให้เราฟังว่า ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเด็กชายเอหลานชาย ตนเองก็นั่งอยู่ด้วย จึงได้ยินทุกอย่างที่หลานบอกกับตำรวจ

ล่าสุดน้องสาวของตนเอง ซึ่งก็เป็นย่าของเด็กชายเอ ได้พาหลานออกจากบ้านหลังที่เกิดเหตุมาอาศัยอยู่ที่บ้านได้ 2 วันแล้ว ซึ่งในช่วงที่อยู่ที่นี่หลานก็จะดูร่าเริงและมีความสุขมากกว่าอยู่ที่บ้านหลังที่เกิดเหตุอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่ในส่วนของคดี เมื่อช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวรุฒ ผู้ก่อเหตุไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดเลยพร้อมแจ้งข้อหาพยายามฆ่า

ช่อง 8 เปิดปากอาเขยฝังดินเด็กแค่สั่งสอน แม่ช็อกลูกลืมหน้าแต่เรียกอาโหด "พ่อ"