จากกรณีที่มีการโพสต์แชร์ข้อความและภาพในโซเชียลกลุ่มคนเมืองกาญจน์2(รีเทิร์น) “ขออนุญาตตามหาหลานชาย นาย รัฐพล (อาร์ต) ได้หายไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. เวลา 20.30 น. ล่าสุดข่าวมาว่าวานเพื่อนไปส่งที่ซอยลมเย็น ลาดหญ้า ข้างร้านสมัยนิยม แล้วก็เงียบติดต่อไม่ได้อีกเลย โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง ปกติไปไหนจะบอกแม่ตลอดใครพบเห็นรบกวนแจ้งมาที่แม่อ๋อยนะคะขอบคุณค่ะ"

ต่อมานางชลธิชา หรือแม่อ๋อย อายุ 54 ปี แม่ของนายรัฐพล หรืออาร์ต อายุ 32 ปี ได้เข้าแจ้งความที่สภ.ลาดหญ้าว่าลูกชายหายตัวไปเมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 เวลาประมาณ 20.30 น.

โดยคุณแม่ เล่าว่า นายรัฐพล หรืออาร์ต หายตัวไปอย่างปริศนาในวันที่ 22 สิงหาคม โดยช่วง 18.00 น. ลูกชายเดินมาหาตนในบ้านพัก ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง จ.กาญจนบุรี และบอกว่า "จะเอารถจักรยานยนต์สีน้ำเงินไปจำนำกับเพื่อนที่ชื่อย่อว่า ต." ซึ่งต.เป็นลูกของอดีตทหารที่เกษียณ ซึ่งบ้านของต.อยู่ในพื้นที่ค่ายทหารไม่ห่างกันมากนัก จากนั้นก็ขี่รถจยย.ออกไปจากบ้านพัก แล้วไม่กลับมาอีกเลย

เช้าวันถัดมา วันที่ 23 สิงหาคม ตนก็ต้องแปลกใจที่ลูกชายยังไม่ได้กลับมาในบ้านพัก ก็พยายามออกตามหาแต่ไม่พบ จนกระทั่งทราบว่า เวลาประมาณ 18.30 น. ลูกชายไปหาพ่อของนายต. ที่เป็นอดีตทหารที่บ้านพัก เพื่อนำรถจยย.ไปจำนำ หลังจำนำเสร็จ ประมาณ 20.00 น. พ่อของนายต.วานให้นายต.ลูกชาย ขับรถเก๋งสีขาวไปส่งนายต.ที่ซอยเย็นร่ม ปากซอยริมถนนสายลาดหญ้า-หนองบัว ฝั่งขาเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี จากนั้นก็ไม่ทราบว่านายอาร์ต ลูกชายตนไปไหนต่อ

ตอนนี้ตนเชื่อว่าลูกตนถูกอุ้มไป เพราะอาจไปรู้ความลับธุรกิจสีเทาบางอย่าง แต่ยังมีความหวังว่าลูกชายตนยังมีชีวิต เพราะหายตัวไปอย่างน่าสงสัย และอาจมีคนที่ลูกสนิททำธุรกิจสีเทา แต่ไม่ขอพาดพิงว่าเป็นใคร ล่าสุดเข้าแจ้งความสภ.ลาดหญ้าแล้ว

โดยมีหลักฐานแชตสุดท้ายที่ได้พูดคุยกับลูกในวันที่ 21 สิงหาคม ลูกชายยังขอให้ตนโอนเงินให้ 100 บาท เพราะรถจักรยานยนต์พังไม่มีตังซ่อม และวันที่ 22 สิงหาคมช่วงเช้าตนก็โอนเงินไปให้อีก 200 บาทเพราะลูกชายบอกว่าหิวข้าว ร้องสื่อและผู้เกี่ยวข้องช่วยตามหาตัวลูกชาย

ทั้งนี้แม่ของนายรัฐพล ยังได้ส่งคลิปเสียงให้ทีมข่าวช่อง 8 เป็นนาทีที่แม่มีสอบถามนายต. เพื่อนลูกชายซึ่งเป็นคนอยู่กับลูกชายคนสุดท้ายก่อนหายตัวไป ทางโทรศัพท์ นายต.อ้างว่า หลังพ่อตนสั่งให้ขับรถเก๋งไปส่งอาร์ต ระหว่างทางอาร์ตสั่งให้ตนจอดรถตรงนี้ บริเวณซอยเย็นร่มปากซอยริมถนนสายลาดหญ้า-หนองบัว ฝั่งขาเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี เพราะเดี๋ยวจะมีเพื่อนมารับ พอส่งเสร็จก็ไม่ได้สนใจว่าเพื่อนอาร์ตมารับหรือยัง ก่อนขับรถออกไป ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะหรือขัดแย้งกับน้องอาร์ต


ทีมข่าวช่อง8 ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม บริเวณหน้าค่ายทหารแห่งหนึ่ง ติดถนนลาดหญ้า-บ่อพลอย โดยจากภาพวงจรปิดจะเห็นวินาทีที่รถเก๋งสีขาวของนายต. เพื่อนนายอาร์ต ขับรถออกจากค่ายทหาร ก่อนเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทาง ซอยร่มเย็น ปากซอยริมถนนสายลาดหญ้า-หนองบัว จ.กาญจนบุรี

ซึ่งตามข้อมูลที่นายต.บอกแม่ผู้สูญหาย ยืนยันว่าตนเป็นคนขับรถพานายอาร์ตออกจากค่ายทหารเพื่อมาส่งในซอยร่มเย็น ก่อนนายอาร์ตหายตัวไป

นอกจากนั้นภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุมจะเห็นว่า ก่อนที่รถเก๋งสีขาวของนายต. จะเลี้ยวออกจากประตูค่ายทหาร มีรถกระบะสีขาวคันหนึ่งจอดอยู่ด้านหน้ารถของนายต. ซึ่งเลี้ยวขวานำทางก่อนที่รถนายต.จะขับตามไป โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่ารถกระบะสีขาวเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่


ล่าสุด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสภาพศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย อยู่ภายในพุ่มไม้กลางป่าลึก พื้นที่หมู่ 6 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบ พบว่าศพดังกล่าวมีผ้าปูเตียงห่อหุ้มอยู่ ภายในผ้าปูเตียงพบศพของผู้เสียชีวิต เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ สภาพศพขึ้นอืด ตรวจสอบไม่พบเอกสารหลักฐานที่ระบุได้ว่าศพดังกล่าวเป็นศพของผู้ใด แต่ที่บริเวณลำตัวของศพ พบไม้แขวนเสื้อ เข็มขัด ผูกมัดแขนทั้งสองข้าง ขณะที่บริเวณเสื้อที่ศพดังกล่าวสวมใส่ยังพบรูคล้ายรูกระสุนด้วย เจ้าหน้าที่จึงเก็บวัตถุต่างๆเหล่านี้ไว้เป็นหลักฐาน

เบื้องต้นญาติยืนยันว่าศพที่พบคือนายรัฐพล หรืออาร์ต

ด้านพลตำรวจตรีไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบสถานที่พบศพด้วยตนเอง กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้าได้รับแจ้งความจากแม่ของนายรัฐพล หรืออาร์ต ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็ได้ประสานชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินการออกสืบสวนออกหาข่าวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่า วันที่นายรัฐพลหายตัวไป ได้เดินทางไปพบกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ชื่อนายต. ซึ่งเป็นลูกของอดีตทหาร และเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำได้ไม่นาน ซึ่งทางตำรวจได้นำตัวชายคนดังกล่าว มาสอบสวนเค้นหาความจริง กระทั่งได้เบาะแสจนนำไปสู่การมาพบศพของนายรัฐพลดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าในคดีทั้งหมด ขอให้รอทางตำรวจสรุปพยานหลักฐานและขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุอีกครั้ง


เมื่อตรวจสอบบัญชีของนายรัฐพล หรือ อาร์ต หลังหายตัวไป พบมีเงินหมุนเวียนนับล้าน พบว่าเมื่อวันที่ 23 ส.ค.2566 เงินเข้า1,015,484.29บาท , ถอนออก 1,007,715.14 บาท , คงเหลือ 7,769.15 บาท

ทั้งนี้ มีข้อมูลเชิงว่า นายต.มีธุรกิจที่ชาวบ้านไม่อยากพูดถึงด้วย

ด้านนางสาวชลิดา พะละมาตย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวินวิน บอกว่า จากการตรวจสอบเอกสารส่วนตัวของนายอาร์ตพบพิรุธเส้นทางเงินบางอย่าง โดยเจอเอกสารการรับเงินที่ทางคุณแม่ของนายอาร์ตบอกว่า ในอาร์ตได้รับเงินค่าจ้างจากนายฝรั่งรวมทั้งสลิปเงินเดือนที่ทำงานในโรงพยาบาลพบว่ามีรายได้รวมกันประมาณ2-3 ปี รวมทั้งหมดไม่ถึง 1 ล้านบาท

ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ขัดแย้งกับบัญชีธนาคารของนายอาร์ต ที่แม่ของนายอาร์ตไปปรับบัญชีดูความเคลื่อนไหวการเงินหลังนายอาร์ตหายตัวไป ซึ่งที่ผ่านมานายอาร์ตมีเงินเก็บในบัญชีประมาณ 1 ล้านบาท ในส่วนเงิน 1 ล้านบาทในสมุดบัญชีไม่ได้แสดง ว่ามีรายรับรายจ่ายก่อนวันที่ 23 สิงหาคม ว่าเป็นเงินโอน 1 ล้านบาท หรือเป็นเงินหมุนเวียนที่ผ่านมามีรายรับรายจ่ายจนมียอดคงเหลือ 1 ล้านบาท ส่วนตนจึงสงสัยว่าทำไมนายอาร์ตถึงมีเงินจำนวนมากขนาดนี้

นอกจากนี้ยังทราบข้อมูลมาอีกว่านายต. เพื่อนสนิทของนายอาร์ตและครอบครัวมีธุรกิจบางอย่างที่ชาวบ้านในชุมชนไม่อยากให้ข้อมูล ซึ่งอาจเชื่อมโยงธุรกิจสีเทาหรือไม่ โดยตัวนายต. ก็เพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าผู้อื่นช่วงต้นปีนี้

ส่วนปมหายตัวไปของนายอาร์ต ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด 1.ทั้งปมชู้สาว 2.ธุรกิจสีเทา 3.ปมขัดแย้งคนอื่น 4.ปมขัดแย้งกับแม่ และก็ยังไม่ทราบว่าหนีออกจากพื้นที่เองหรือถูกคนร้ายอุ้มไป


วันนี้นางสาวชลิดา ได้ไปตรวจสอบภายในบ้านพักของนายอาร์ต เป็นบ้านพักห้องแถวหนึ่งชั้นในค่ายทหาร ปกติแล้วจะอยู่บ้านกันสองคนคือแม่กับนายอาร์ต ซึ่งแม่จำลองเหตุการณ์ก่อนลูกหายตัว แม่นั่งอยู่บริเวณจุดเย็บผ้าในบ้านพัก จากนั้นลูกชายก็มานั่งอยู่ที่เก้าอี้แล้วก็บอกตนว่าจะเอารถจักรยานยนต์ไปจำนำกับพ่อของนายต. หากได้เงินจำนำรถก็จะสามารถช่วยแม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟในบ้านได้ พูดเสร็จก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากนั้นก็หายตัวไปอย่างปริศนา


โดยที่บริเวณเตียงนอนของนายอาร์ต แม่และญาติทำพิธีแก้เคล็ด หลังไปหาหมอดูและร่างทรงบอกให้แม่นำเสื้อของนายอาร์ตมัดจำลองคล้ายนายอาร์ตนอนอยู่เตียงนอน จากนั้นก็นำจานที่ทางหมอดูและร่างทรงได้เขียนอักขระและนำแผ่นทองซึ่งผูกดวงนายอาร์ตและแม่ใส่ไว้ตรงกลางจาน ก่อนวางทับเสื้อผ้านายอาร์ต แล้วกำชับตนเองให้จุดเทียนทุกวันต่อเนื่องกันเป็นเวลา 7 วัน โดยตนได้เริ่มจุดเทียนวันนี้เป็นวันแรกในช่วงเวลา 07.00 น. โดยยอมรับว่าตอนนี้พึ่งทั้งทางสื่อทางจิตอาสา เพื่อสังคม ทางกฎหมายและทางไสยศาสตร์ เพื่ออยากตามหาตัวลูกให้กลับมาหาตน

โดยหมอดูบอกว่าลูกชายเป็นคนดวงอ่อนเพราะเกิดวันเสาร์ ส่วนตัวตนเป็นคนดวงแข็งเพราะเกิดวันศุกร์ จึงต้องทำพิธีแก้เคล็ดดังกล่าวเพื่อให้ดวงของตนไปหนุนดวงลูกชาย แล้วหมอดูบอกว่าลูกชายจะกลับมาหลังจากจุดเทียน 7 วัน


ขณะที่อีกคลิปเป็นคลิปเสียงคุยโทรศัพท์ระหว่างแม่ผู้สูญหายกับนายก.พ่อของนายต. ซึ่งเป็นอดีตทหาร โดยนายก.บอกว่า เมื่อวานเพิ่งไปให้การกับตำรวจ เรื่องที่นายอาร์ตหายตัวไปอย่างปริศนา นายต.ก็ยืนยันกับตำรวจว่าอาร์ตเหมือนลูกชายตนอีกคนเพราะอาร์ตเป็นเพื่อนกับต. ซึ่งเคยมากินอยู่ที่บ้านตนช่วงหนึ่ง และตนยังเคยจ้างอาร์ตเป็นลูกน้องขายขนมจีนที่ร้านตน ยืนยันอาร์ตกับตนและนายต.ลูกชายตน ไม่เคยมีประเด็นขัดแย้งกันก่อนหน้านี้ ซึ่งตนก็ยืนยันความบริสุทธิ์ด้วยการเอาโทรศัพท์มือถือตนให้ตำรวจดูเป็นหลักฐาน เนื่องจากตนได้โอนเงินค่าจำนำรถจักรยานยนต์ของอาร์ตไปให้อาร์ตก่อนที่อาร์ตหายตัวไป และในคลิปเสียงนายก.ยังได้ต่อว่าอาร์ต ที่หายตัวไปแล้วทำให้คนอื่นเดือดร้อน

ตะลึงหนุ่มจำนำรถกับลูกทหาร เป็นศพถูกมัดหมกป่า ช่อง 8 ลุยสืบที่แรกเจอพิรุธอื้อ