เมื่อวันที่ 28 ส.ค.66 เวลาประมาณ 08.20 น. ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุ มีเหตุทำร้ายร่างกาย บริเวณริมถนนสายป่าตอง-กะทู้ หลังได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบว่า ผู้ชายกำลังใช้อาวุธมีดทำร้ายผู้หญิงจนได้รับบาดเจ็บ

เจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้ควบคุมผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือ นายเพทาย หรือโอ๊ต อายุ 32 ปี พร้อมของกลางเป็นอาวุธมีดปลายแหลม 1 เล่ม

ต่อมาจึงได้ประสานรถพยาบาลโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นำตัวผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมา คือ นางสาวบี ภรรยา อายุ 30 ปี ในสภาพนอนจมกองเลือดส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ได้รับรายงานว่านางสาวบี เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะที่นายเพทายกำลังก่อเหตุไว้ได้ จากภาพจะเห็นนายเพทายยืนข่มขู่และใช้มีดขู่ ส่วนนางสาวบีนั่งยกมือไหว้ ก่อนที่นายเพทายจะจ้วงแทงนางสาวบีได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมา ทีมข่าวช่อง8 ได้พูดคุยกับผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุฝ่ายชายชักมีดออกมาแต่ยังไม่ลงมือแทง จึงรีบโทรศัพท์ไปหาตำรวจ จากนั้น 5 นาทีตำรวจมาถึง

ขณะที่กำลังบอกตำรวจอยู่นั้น ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าแทงแล้วแทงแล้ว จึงรีบถือเก้าอี้จะวิ่งเข้าไปช่วยน้องผู้หญิงแต่ช่วยไม่ทัน คาดใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ผู้ชายคล้ายกับคนเมายา สังเกตเห็นผู้หญิงถูกแทงที่ถือจนกระดูกแทงขึ้นมา ก่อนที่ตำรวจจะรวบตัวผู้ชาย 

จากการสอบถามพี่ชายของนางสาวบี เล่าว่า น้องสาวของตนได้คบหากันนายเพทาย มาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน ทั้งคู่ก็แต่งงานกัน (แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) และอยู่กินกันมาเรื่อยๆ อย่างปกติสุข แต่ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน น.ส.บี ได้โทรมาหาตนและขอคำปรึกษา เล่าว่า สามีแอบไปมีเรื่องชู้สาวหลายต่อหลายครั้ง ทั้งยังโดนทำร้ายร่างกายตบตีแทบทุกวัน ซึ่งตนก็ต้องอดทนอยู่เพราะเป็นห่วงลูกทั้ง 2 คน

และเมื่อวันที่ 1 ส.ค.66 น.ส.บี โดนสามีทำร้ายทุบตีอีกรอบ ทั้งยังพังข้าวของในบ้านเสียหายหลายอย่าง น.ส.บี จึงตัดสินใจหนีจากนายเพทาย ไปอยู่จังหวัดภูเก็ต และตัดสินใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ขอลาขาดกับนายเพทายผู้เป็นสามี

หลังจากผ่านไปประมาณ 2 อาทิตย์ วันที่ 15 ส.ค.66 นายเพทาย ได้หอบลูกชาย 2 คน ออกจากเพชรบูรณ์ เพื่อหวังไปขอคืนดีกับ น.ส.บี แต่ครั้งนั้น นายเพทายยังไม่ทราบที่อยู่ของ น.ส.บีจึงได้เปิดห้องพักรายวันอยู่กับลูกๆ อีก 2 คน น.ส.บี เห็นดังนั้นจึงนึกสงสารลูก เลยยอมออกไปเจอนายเพทาย ซึ่งนายเพทายรับปากว่าจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ จึงทำให้ได้คืนดีกัน และตัดสินใจย้ายไปอยู่กรุงเทพด้วยกัน

แต่เมื่อผ่านไปเพียง 1 อาทิตย์ นายเพทายก็กลับมาทำร้ายทุบตี น.ส.บี เหมือนเดิม ทำให้ น.ส.บี ตัดสินใจหนีกลับไปที่จังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้นายเพทายก็บอกว่าจะยอมปล่อยเธอไป แต่ขอให้ช่วยส่งของผ่านทางไปรษณีย์มาให้หน่อย น.ส.บีจึงได้ทำการส่งของผ่านไปรษณีย์กลับไปให้นายเพทายที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้นายเพทายทราบที่อยู่ของ น.ส.บี จากหน้ากล่องไปรษณีย์

จนกระทั่งล่าสุดวันนี้ (28 ส.ค.66) นายเพทายได้เดินทางตามที่อยู่หน้ากล่องไปรษณีย์จากจังหวัดเพชรบูรณ์ สู่จังหวัดภูเก็ต เป็นระยะทางกว่า 1,100 กิโลเมตร โดย ที่ไม่มีการติดต่อมาหา น.ส.บี แต่นายเพทาย ได้แอบมาดักรออยู่ตรงจุดที่ใกล้เคียงกับที่อยู่หน้ากล่องไปรษณีย์ เมื่อนายเพทายได้เจอตัว น.ส.บี จึงได้พยายามเข้าไปง้อขอคืนดี แต่ครั้งนี้ น.ส.บี ไม่ยอมคืนดี ทำให้นายเพทายคว้ามีดพกปลายแหลมที่เตรียมมาด้วย กระหน่ำแทงไปยัง น.ส.บีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

หนุ่มขี่รถพันโลง้อสาวไม่คืนดี สุดเลือดเย็นฆ่าทิ้งตอนไหว้ขอชีวิต