กรณี เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น.ของวันที่ 19 สิงหาคม 2566 ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวถูกแทงเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าร้านค้าขายของชำ หมู่บ้านการเคหะมหาชัย หมู่ที่ 4 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่เกิดเหตุเป็นตรงบริเวณหน้าร้านใกล้กับโต๊ะม้าหินอ่อน พบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงนอนหงายจมกองเลือด ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวปาริชาติ หรือหยก อายุ 37 ปี  ชาว จ.สุพรรณบุรี มีอาชีพเป็นพนักงานปั๊มน้ำมัน ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ พบบาดแผลถูกมีดปอกผลไม้แทงเข้าที่บริเวณลำคอ  หน้าอก แขนด้านซ้าย ไหล่ด้านขวา และลำตัวหลายแห่ง ส่วนของผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือ นายมั่นคง อายุ 40 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ ภายหลังก่อเหตุได้ปั่นรถจักรยานหลบหนีไปตามถนนพระราม 2 แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวไว้ได้ พร้อมกับนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร นั้น

 

วันนี้ (20 ส.ค.) ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบริเวณหน้าร้านขายของชำ โดยจุดดังกล่าวเป็นจุดที่มีโต๊ะหินอ่อนและโต๊ะไม้ เป็นจุดที่ กลุ่มของคนตายซึ่งเป็นพนักงานปั๊มน้ำมันมานั่งกินจิ้มจุ่มกันหลังเลิกงาน ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าของร้านได้มีการล้างทำความสะอาดกองเลือดออกไปหมดแล้ว และบริเวณ ร้านขายของชำที่เกิดเหตุก็เป็นแถวบริเวณที่อยู่อาศัยของคนตายและคนก่อเหตุ รวมถึงเพื่อนสนิท

 

ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านขายของชำ  พบว่าช่วงเวลาเกิดเหตุเมื่อวานนี้ (19 สค.) เวลาประมาณ 20:06น. กล้องวงจรปิดจับภาพ นางสาวปาริชาตินั่งพูดคุยล้อมวงกินจิ้มจุ่มอยู่กับเพื่อน พูดคุยหัวเราะกัน และมีการพูดหยอกล้อกันเกี่ยวกับเรื่องผู้ชาย

 

และเวลาต่อมากล้องวงจรปิดตัวเดิมจับภาพได้ต่อเวลาประมาณ 20:08น. กล้องวงจรปิดจับภาพ นายมั่นคงคนก่อเหตุปั่นจักรยานสีชมพูใส่เสื้อสีม่วงกางเกงขาสั้นสีเหลือง มาจอดบริเวณด้านหน้าร้านขายของชำจุดที่ นางสาวปาริชาติ คนตายนั่งกินจิ้มจุ๋มอยู่กับเพื่อน , ซึ่งการพูดคุยในวงกลุ่มเพื่อนก็เงียบลง , ก่อนที่จะได้ยินเสียงของนายมั่นคงพยามขอเงินนางสาวปาริชาติคนตาย ซึ่งนางสาวปาริชาติก็พยามพูดทำนองว่า “ มาเอาวันนี้ไม่มีหรอก เดี๋ยวมี ก็ให้เอง เงินของใครของมันสิ” ก่อนที่จะเห็นว่านายมั่นคงเดินอ้อมไปด้านหลังคนตาย แล้วเอาอาวุธมีดที่เตรียมมาจวงแทง ก่อนที่จะปั่นจักรยานหลบหนีไป

และกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านขายของชำจับภาพได้ต่อเวลาประมาณ 20:16 น.  รถกู้ภัยได้เข้ามาถึงที่เกิดเหตุเพื่อที่จะปฐมพยาบาลและช่วยเหลือคนเจ็บ แต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

และนอกจากนี้ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมบริเวณปากซอยก่อนถึงร้านขายของชำ จับความเคลื่อนไหวในคืนวันเกิด (19 สค) เวลาประมาณ19.56น. ก่อนที่จะก่อเหตุแทงคอนางสาวปาริชาติ นายมั่นคงได้มีการปั่นจักรยานมาอีกทาง เพื่อที่จะมาจอดดูลาดลาว โดยเข้าใจว่าตัวของนางสาวปาริชาติออกจากห้องเพื่อที่จะมาแอบนั่งกินจิ้มจุ่มกับชายอื่น แต่เมื่อปั่นจักรยานมาดูแล้วไม่พบว่านั่งกินกับชายอื่นแต่มีเพื่อนที่ทำงานด้วยกันเท่านั้น จึงได้ปั่นจักรยานกลับไปก่อน แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 15 นาทีจึงจะเข้ามาก่อเหตุ // ซึ่งกล้องวงจรปิดตัวเดียวกันนี้ก็ยังจับภาพได้ช่วงเวลาที่เกิดเหตุชุลมุน ในขณะที่ไหนมั่นคงเข้าไปก่อเหตุแทงคอนางสาวปาริชาติ ก่อนที่จะ เดินออกจากวงจิ้มจุ๋มด้วยท่าทีนิ่งเฉย แล้วปั่นจักรยานหนี

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ในช่วงวันเกิดเหตุ 19 สค. เวลาประมาณ 20:11 น. หลังจากที่ก่อเหตุแทงนางสาวปาริชาติหรือหยกที่บริเวณหน้าร้านขายของชำแล้ว กล้องวงจรปิดจับภาพได้ เห็นนายมั่นคงมันจักรยานสีชมพูหนีออกบริเวณด้านหน้าหมู่บ้าน เพื่อมุ่งหน้าไปที่ถนน พระราม 2 ก่อนที่จะถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา  โดยท่าทีในการปั่นไม่ได้มีการเร่งรีบหรือมีท่าทีลุกรน ปั่นไปตามปกติบนเส้นทาง

 

นางสาวตั๊ก เพื่อนของคนตาย เผยว่า ส่วนตัวทำงานกับนางสาวปาริชาติหรือยกคนตายมาหลายปีแล้ว และรู้จักกับนายมั่นคงตอนที่นางสาวปาริชาติคนตายพามาแนะนำให้รู้จัก โดยพามาสมัครในตำแหน่งพ่อบ้านของปั้ม ซึ่งจะได้รับเงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 9000 บาทต่อเดือน และมีค่าโอทีรวมถึงค่าความขยันอีก  จนกระทั่งทั้งคู่ตัดสินใจคบหากัน ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจตัวของนายมั่นคงจึงได้เอาเอทีเอ็มซึ่งเป็นธนาคารเงินเดือนให้กับนางสาวปาริชาติ โดยอ้างว่าจะให้เป็นคนควบคุมการเงิน จนกระทั่งวันที่นายมั่นคงถูกไล่ออกจากสาขานี้ เพราะเนื่องจากติดเล่นโทรศัพท์ แล้วกำลังจะถูกย้าย ไปช่วยสาขาอื่น ตัวของนายมั่นคงตัดสินใจลาออก ซึ่งในวันที่ลาออกก็มีเงินติดอยู่ในบัญชีจำนวน แต่ตัวของนางสาวปาริชาติคนตายยังไม่ได้มีการกดเงินให้  แล้วตัวของนางสาวปาริชาติอ้างว่าจะกดเงินไปให้เพื่อนสนิทยืม (นายตั้ม) แล้วในช่วงที่ผ่านมาตัวของนายมั่นคงตกงานจึงไม่มีเงินใช้ จึงขอทวงเงินจำนวนดังกล่าวคืน แต่นางสาวปาริชาติไม่มีให้โดยอ้างว่ายังไม่ได้เงินคืนจากที่ให้เพื่อนยืม นายมั่นคงจึงได้มีการสะกดรอยติดตามความเคลื่อนไหวจนกระทั่งไปเห็นอะไรบางอย่าง แล้วเกิดความเข้าใจผิดหรือไม่

 

ส่วนในวันเกิดเหตุคือเมื่อวานนี้ กลุ่มของตนเองชวนกันไปนั่งกินจิ้มจุ่มบริเวณร้านขายของชำ ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ทำปั๊บด้วยกัน โดยตั้งใจไปกินจิ้มจุ่มก่อนที่จะไปดูหมอลำต่อ แต่ปรากฏว่าสังเกตุเห็นช่วงหัวค่ำนายมั่นคงปั่นจักรยานมาสังเกตลาดลาว1ครั้ง มาครั้งแรกไม่ได้พูดอะไร ปั่นจักรยานมาถึงจอดนิ่งแล้วมองแต่หน้านางสาวปาริชาติก่อนที่จะปั่นออกไป แล้วกลับมาอีกรอบทำนองมาทวงเงินคืน แล้วมีการพูดทำนองว่าถ้าอ้างว่าไม่มีเงินทำไมถึงมีเงินกินจิ้มจุ๋มได้ แต่ตัของนางสาวปาริชาติกี่จานว่าไม่มีให้ นายมั่นคงจึงพูดคำสุดท้ายว่า “ ถ้าไม่ให้มึงก็ตาย” ก่อนที่จะเดินมาด้านหลังแล้วจ้วงแทงเข้าที่คอและตามลำตัว 

 

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเข้าใจว่าเป็นเรื่องประเด็นของการทวงเงิน รวมทั้งประเด็นหึงหวง เพราะหลังจากที่เลิกราจากอดีตแฟนเก่าคือนายตั้ม ได้มาคบหากับนายมั่นคง จากนั้นช่วงรอยต่อที่มีปัญหากันก็หันกลับไปคบหากับนายตั้มอีกครั้ง จึงมีความเป็นไปได้ว่าทำให้นายมั่นคงเกิดความไม่พอใจ ผสมกับไม่ได้เงินคืน จึงได้มีการก่อเหตุดังกล่าว และยอมรับว่าโดยนิสัยส่วนตัวของนางสาวปาริชาติคนตาย ก็มีลักษณะคล้ายกับคนเป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้ ตัวเองก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ก็เคยเตือนแล้วว่าให้ระวังเรื่องพวกนี้ สุดท้ายแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้

 

วันเดียวกันนี้ทีมข่าวได้พูดคุย กับ นางสร้อย เค้าแดง อายุ63ปี แม่ค้าขายข้าว ในซอยที่เกิด ในฐานะคนที่รู้จักกับคนตายและคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตัวของนางสาวปาริชาติหรือหยกเป็นอดีตแฟนเก่า ของนายมั่นคงคนก่อเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้คบหากัน3เดือน ก่อนที่จะเลิกรากัน เนื่องจากมีการทำร้ายร่างกาย โดยตัวของนายมั่นคงต้องการบัตรเอทีเอ็มและขอเงินคืน แต่ตัวของนางสาวปาริชาติยึดบัตรเอทีเอ็มเอาไว้ ซึ่งเป็นเอทีเอ็มที่ใช้สำหรับเงินเดือน แต่ตัวของนางสาวปาริชาติไม่ยอมคืน จึงทำให้ตัวของนายมั่นคงไม่มีเงินใช้ และมักจะมาบ่นให้ตนเองฟังทุกวันเวลามากินข้าว บอกว่าไม่มีเงินแม้แต่จะจ่ายค่าห้อง และกำลังจะถูกไล่ออกจากหอพัก แล้วพยามติดต่อกับนางสาวปาริชาติเพื่อที่จะขอเงิน 2000 บาท หรือขอเอทีเอ็มคืนเพื่อที่จะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ แต่ตัวของนางสาวปาริชาติก็ไม่ยอมให้เงิน แถมยังไปมีคนใหม่ จึงทำให้ตัวของนายมั่นคงเริ่มมีอาการโกรธแค้นสะสม

 

และในวันเกิดเหตุ  ช่วงก่อนเวลา 19:00 น. ตัวของนายมั่นคงคนก่อเหตุได้ปั่นจักรยาน สีชมพู ที่ตนเองขายต่อให้ใช้ในราคา500บาท แต่ยังไม่ได้เงิน ใครยืมใช้ไปก่อน โดยมีการปั่นจักรยานมาหาตนเองที่ร้านกับข้าวแล้วมาสั่งข้าวกิน และในระหว่างที่กินข้าวนั้นก็ได้มีการพูดถึงนางสาวปาริชาติ ยังบ่นเรื่องเดิมว่าขอเงินก็ไม่ยอมให้ เอทีเอ็มก็ไม่ยอมคืน วันนี้ผมจะไปเคลียร์กลับมา ผมจะไปฆ่ามัน ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่าจะไปก่อเหตุด้วยข้ำ เข้าใจว่าพูดด้วยอารมณ์โมโห , หลังจากที่กินข้าวเสร็จพยามหยิบมีดที่อยู่ที่ตู้กับข้าว โดยเป็นมีดไปแหลมขนาดเล็ก แต่ตนเองเห็นว่ามีการเอื้อมมือจะมาหยิบมีด จึงได้เอามือปัด และตีมือไป1ที ตัวของนายมั่นคงจึงปั่นจักรยานออกไป และหายไปพักใหญ่ จนกระทั่ง ปั่นจักรยานผ่านหน้าร้านตัวเองกลับมา แล้วหันมาบอกว่า”มันตายแล้วครับป้า ผมฆ่ามันแล้ว” ก่อนที่ตนเองจะทราบข่าวว่าตัวของนางสาวปาริชาติถูกแทงคออยู่ที่หน้าร้านขายของชำไม่ไกลจากร้านตนเอง

 

แล้วตัวเองเพิ่งมารู้ที่หลัง ว่า ตัวของนายมั่นคงหลังจากที่พยายามจะเอามีดของร้านตนเองไปก่อเหตุ แต่เอามีดไปไม่ได้ ได้มีการไปแวะซื้อที่ร้านทุกอย่าง 20 บาท โดยได้มีดปลายแหลม ในราคา10บาท เอาไปเพื่อที่จะไปขอเงิน พร้อมกับมีการแทงคอตามที่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิด ซึ่งส่วนตัวก็ไม่คิดว่านายมั่นคงจะเป็นคนแบบนี้ เพราะโดยปกติแล้วก็ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่ก็เข้าใจว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องของเงินที่ถูกยึดเอทีเอ็ม ประกอบกับถูกไล่ออกจากงาน และยังจับได้ว่าตัวของนางสาวปาริชาติไปมีคนอื่น จึงทำให้ก่อเหตุครั้งนี้ขึ้น

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนซอยด้านนอกก่อนถึงร้านขายของชำที่เกิดเหตุ  ของวันที่ 19 สค. เวลาประมาณ 18:30 น. กล้องวงจรปิดจับภาพนายมั่นคง ปั่นจักรยานออกจากร้านขายของ20บาท หลังจากมีการซื้อมีดปลายแหลมในราคา10บาท ก่อนที่จะออกจากร้านแล้วไปก่อเหตุแทงนางสาวปริชาติอดีต แฟนสาว ในคืนวันเดียวกันเวลาประมาณ 20:10 น.

 

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่องแปดยังได้เจอกับนายเพชร อดีตสามีของนางสาวปาริชาติหรือหยกคนตาย ซึ่งเคยคบหากันประมาณเกือบ 10 ปี ก่อนที่จะเลิกราแล้วมาคบหากับคนก่อเหตุ

 

นายเพชร เผยว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยคบหากันเกือบ 10 ปีกับคนตาย แต่โดยนิสัยของคนตายแล้วเป็นคนที่มีแฟนเยอะ ซึ่งช่วงที่คบหากับตนเองก็มีชายอื่นเข้ามาพูดคุยและสนิทสนม แต่ตัวเองก็พยามที่จะห้ามปรามและให้เลิกนิสัย จนกระทั่งช่วงหลังตนเองป่วยตัวของนางสาวปริชาติพลตายจริงเลิกลาแล้วไปคบกับนายตั้ม แล้วเข้าใจว่าคบหากันได้ไม่นานก็เลิกรากันอีกครั้งแล้วไปคบหากับนายมั่นคงคนก่อเหตุ แต่ตนเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเพราะเนื่องจากเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัวและความชอบของเค้า ที่มักเปลี่ยนแฟนบ่อยหรือมีผู้ชายหลายคน อาจเข้าใจว่าเป็นรถสนิยมหรือความชอบส่วนตัว แต่ครั้งก่อนตนเองเคยเตือนแล้วว่า ให้ระวังเรื่องพวกนี้กลัวว่าจะเกิดประเด็นหึงหวงแล้วถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกฆ่า แต่ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วคำเตือนของตนเองจะเกิดขึ้นจริง

 

ส่วนเรื่องของการใช้เงินหรืออ้างว่ามีเรื่องหนี้สินนั้น ตนเองไม่รู้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของนางสาวปาริชาติ และไม่รู้ว่าไปมีนี่แล้วต้องการให้ผู้ชายคนไหนช่วยจ่ายหรือไม่ แต่เท่าที่ตนเองรู้โดยปกติแล้วก็จะใช้เงินของใครของมัน ไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวของนางสาวปาริชาติจะไปเอาเงินของนายมั่นคงมาถือเอาแบบนี้

 

และหลังเกิดเหตุ ตนเองก็มารู้ข่าวตอนที่มี เพื่อนบ้านและคนที่อยู่ในเหตุการณ์โทรมาแจ้ง ตนเองก็เอาไปดู แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะเนื่องจากตัวของนางสาวปาริชาติถูกแทงและเสียเลือดมากจนกระทั่งตาย แล้วตอนนี้ตนเองในฐานะที่รู้จักกับญาติทั้งฝั่งของสุพรรณบุรีและสระบุรี ก็กำลังติดต่อญาติให้ แต่โดยเบื้องต้นยังติดต่อใครไม่ได้ จึงไม่รู้ว่าจะติดต่อให้ใครมารับศพไปตั้งบำเพ็ญกุศล ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการติดต่ออยู่

หนุ่มแค้นเปย์สาวหนักหลังเลิกตื๊อขอเงินพัน  แวะซื้อมีดใหม่ล็อคฆ่าแทงคอต่อหน้าเพื่อน