จากเหตุสะเทือนขวัญ ตำรวจสภ.สำโรงเหนือ เข้าตรวจสอบบริเวณหน้าตึกในซอยศรีบุญเรือง 2 ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุพบร่างของนางสาวจิตรา อายุ 59 ปี อยู่ที่ลานจอดรถ สภาพนอนหงายเสียชีวิต สวมเสื้อแขนยาวสีส้มดำ กางเกงขายาวสีเทาถูกถอดลงมากองอยู่ที่เข่า ที่ศีรษะถูกทุบด้วยของแข็งจนสมองไหล ท้ายทอยมีรอยเฉือนด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ และที่อวัยวะเพศถูกเฉือนด้วยของมีคมคว้านออกมากองไว้ข้างศพ ใกล้กันพบมีดทำครัวยาวประมาณ 10 นิ้ว ตกอยู่ 1 เล่ม และค้อน สภาพด้ามหัก ตกอยู่ 1 อัน และมีค้อนปอนซึ่งทำจากเหล็ก ตกอยู่อีก 1 อัน ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายขจรเดช อายุ 23 ปี อดีตทหารเกณฑ์ที่เพิ่งปลดประจำการมาได้ไม่ถึงเดือน ที่มือและตามตัวเปื้อนเลือด นั่งอยู่หน้าคอนโด โดยมีผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านยืนคุมอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวนำไปสอบสวน ที่ สภ.สำโรงเหนือ

หลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด จับภาพเหตุการณ์ทั้งหมด

เวลา 08.58 น. จับภาพนางสาวจิตราผู้ตาย นั่งอยู่บริเวณม้านั่ง ส่วนนายขจรเดช คนก่อเหตุได้เดินไปเดินมา พร้อมกับมีการพูดคุยกับผู้ตาย หลังจากนั้นคนก่อเหตุเดินเข้าไปในร้านค้าก่อนจะเดินออกมาหาผู้ตายอีกครั้ง

08.59 น. นายขจรเดช เดินมาหาผู้ตายและหยิบยื่นบางอย่างให้กัน ก่อนมีการพูดคุยกันสักพัก

09.00-09.05 น. นายขจรเดช เดินมานั่งคุยกับผู้ตาย

09.09 น. นายขจรเดชเดินมานั่งยองๆ ใกล้กับนางสาวจิตรา ก่อนนางสาวจิตรา มีการทำอะไรบางอย่าง กับหน้าผากนายขจรเดช

09.14 น. นางสาวจิตรา ลุกออกจากม้านั่ง

09.30 น.-09.40 น. นายขจรเดช เดินไปมา

09.45 น. นางสาวจิตรา เดินตามนายขจรเดชไปห้องพักของนายขจรเดช

09.58 น. นางสาวจิตราเดินกลับออกมา โดยมีนายขจรเดช เดินตาม

09.59 น. นายขจรเดชเดินนำ นางสาวจิตราเดินตามไปห้องพักนายขจรเดชอีกครั้ง

11.19 น. นางสาวจิตรา เดินไปห้องคนก่อเหตุครั้งสุดท้าย ก่อนเกิดเหตุ

และนาทีเกิดเหตุ เวลา 11.20 น. นางสาวจิตรา ยืนโต้เถียงกับนายจรเดชที่ยืนอยู่ในบ้าน มีใบมะละกอบัง

11.23 น. นางสาวจิตรา ถูกถีบออกมาจากห้องพักของนายขจรเดช หลังจากนั้นนายขจรเดชซึ่งคีบบุหรี่อยู่ได้ออกมาใช้เท้ากระทืบร่างของนางสาวจิตรา ก่อนจะใช้ค้อน กระหน่ำทุบร่างของนางสาวจิตราไม่ยั้ง ประมาณ 20-30 ครั้ง

11.25 น. นายขจรเดชเดินมาเพื่อที่จะบอกคนอื่นว่าฆ่าคนตายแล้ว ก่อนจะกลับไปใช้ค้อนปอนขนาดใหญ่ทุบร่างของนางสาวจิตราซ้ำ ก่อนลากร่างนางสาวจิตรามาไว้ข้างรถ

11.26 น. นายขจรเดชลากร่างนางสาวจิตรา ก่อนทำร้ายซ้ำ และหยิบบางอย่างออกจากมือ

11.28 - 11.30 น. นายขจรเดช ยังทำอะไรบางอย่างกับร่างของนางสาวจิตรา ซึ่งมุมกล้องดังกล่าวได้พ้นกล้องวงจรปิด จึงทำให้ไม่เห็นพฤติการณ์อย่างชัดเจน แต่คาดว่า เป็นนาทีที่นายขจรเดช ได้ใช้อาวุธมีดช่วงแทงร่างของผู้ตายและเอามือควักสมองพร้อมเฉือนอวัยวะเพศของผู้ตายมาวางไว้ข้างศพ


ต่อมาทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ได้พูดคุยกับ นายจำลอง พุ่มพันธุ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.เทพารักษ์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเป็นคนแรกๆ เมื่อไปถึงก็เห็นตัวผู้ก่อเหตุยืนถอดเสื้อยืนอยู่ใกล้ศพด้านหน้าคอนโด ภายในมือยังกำเศษกะโหลกของผู้ตายไว้ และตามตัวเปื้อนไปด้วยเลือดของผู้ตาย

ตนเองจึงบอกให้ผู้ก่อเหตุนั่งลงและอยู่เฉยๆ ตอนนั้นผู้ก่อเหตุเอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไร ตนเองจึงได้ถ่ายคลิปมือถือไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้น

โดยในคลิปจะเห็นว่าตนเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินทางมาถึงพยามสอบถามตัวผู้ก่อเหตุว่าทำไมถึงไปทำเขา ซึ่งผู้ก่อเหตุอ้างว่าไม่พอใจที่ผู้ตายกินเหล้าเมาและเดินมาโวยวายหน้าบ้านเสียงดังจึงก่อเหตุ ส่วนเหตุผลที่ต้องใช้มีดแทงศีรษะและควักเอาสมองของผู้ตายออกมา และใช้มีดตัดอวัยวะเพศของผู้ตายมาวางไว้ข้างศพ และจับแก้ผ้า ตัวผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมพูดว่าทำไปเพราะสาเหตุใด แต่สิ่งที่ผู้ก่อเหตุทำนั้นสร้างความตกใจให้กับชาวบ้านที่เห็นจำนวนมาก

ส่วนประวัติของผู้ก่อเหตุก่อนหน้านี้ทราบว่าเมื่อสามปีก่อน ตัวเองก็เคยเดินทางมาระงับเหตุแล้วหนึ่งรอบเนื่องจากตัวผู้ก่อเหตุไปก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับเด็กวัยรุ่นภายในคอนโด แต่ขณะนั้นฝ่ายผู้เสียหายที่ถูกทำร้ายเจ็บไม่มากและไม่ได้เอาเรื่องและย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว

จากนั้นตัวผู้ก่อเหตุก็เพิ่งจะกลับมาจากรับราชการทหารได้ไม่ถึงเดือน กระทั่งมาก่อเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบสารเสพติดไม่พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย แต่จากการตรวจสอบภายในบ้านพัก ซึ่งผู้ใหญ่บ้าน ได้พาทีมข่าวเข้าไปดูพบ ขวดเหล้าขาวจำนวนหนึ่งขวดวางอยู่บนโต๊ะภายในบ้าน และมีเศษใบจากยาสูบอยู่เต็มโต๊ะ

นอกจากนี้ทีมข่าวไปพบ หนังสือสวดมนต์ และมีการจุดธูปเทียน บูชาองค์เทพอะไรบางอย่างอยู่ภายในบ้านอีกด้วย ซึ่งผู้ใหญ่บ้านสงสัยว่า ตัวผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการทางจิตหรือไม่อย่างไร


ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.สำโรงเหนือ พบว่า นายขจรเดช ตัวผู้ก่อเหตุหลังจากสอบปากคำเสร็จ ได้ถูกนำตัวเข้าห้องขัง โดยเจ้าตัวยังมีสีหน้าที่เรียบเฉย และไม่ได้พูดอะไรกับทีมข่าว

ขณะเดียวกันทีมข่าวสอบถามนางมาลี อายุ 69 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองนั่งอยู่หน้าคอนโด และเห็นนางจิตรา หรือ ป้าแดง นั่งดื่มเหล้าขาวอยู่ด้านหน้า จากนั้นไม่นาน ป้าแดงก็เอะอะโวยวายตามภาษาคนเมา ซึ่งเป็นปกติของป้าแดงที่ชอบจะเดินทางมาหาเพื่อนที่คอนโดฯ และชอบดื่มเหล้าเสียงดัง

จากนั้นไม่นาน ตนเองก็เห็น ป้าแดงได้พูดเมา และด่ากราดคนที่เดินผ่านไปมา แบบไม่เจาะจงตัว จากนั้นป้าแดง ก็เดินไปที่หน้าบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่หน้าคอนโด ถัดไป 3 ห้อง

ไม่นานนัก ตนเองก็ได้ยินเสียงดังตุบ เหมือนอะไรตกพื้นอย่างแรง ผ่านไปไม่นาน ก็ได้ยินเสียงดังอีกครั้ง ตนเองจึงวิ่งออกไปดู จึงพบว่า ผู้ก่อเหตุ กำลังใช้ค้อนปอนทุบป้าแดงอยู่ โดยทุบอยู่อย่างนั้นประมาณ 20-30 ครั้ง จนตนเองเห็นแล้ว ตกใจมาก และก้าวขาไม่ออก ได้แต่ตะโกนให้คนช่วย

ทั้งนี้ ป้าแดงเป็นพนักงานกวาดขยะมักจะชอบมาเเวะกินเหล้าเมาอยู่ใต้คอนโดเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งเวลาเมาก็ด่าคนไปทั่ว แต่ไม่เคยไปทะเลาะหรือมีปัญหากับใคร ส่วนผู้ก่อเหตุอยู่คอนโดฯมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะไปรับราชการทหารและเพิ่งกลับมาอยู่ที่คอนโดฯได้ไม่ถึงเดือนก็มาเกิดเหตุ


ด้านนายดำรงศักดิ์ สระแก้ว ลูกชายของผู้ตาย หลังทราบข่าวได้มายังที่เกิดเหตุเจ้าตัวถึงกับแทบเป็นลมหลังทราบว่า แม่ของตนเองถูกฆาตกรรม นายดำรงศักดิ์ บอกว่า ตนเองกับแม่พักอาศัยอยู่ที่คอนโดอีกแห่ง โดยแม่เป็นพนักงานกวาดขยะ ล่าสุดก่อนเกิดเหตุช่วง 7 โมงเช้า หลังจากตนเองกลับจากวิ่งรถส่งอาหาร ได้เจอแม่ยืนอยู่หน้าบ้าน โดยเตรียมจะออกไปกินเหล้านอกบ้าน ตนเองยังเตือนแม่เลยว่า อย่ากินเยอะ และให้รีบกลับบ้าน แม่ก็บอกว่า โอเคๆ โดยแม่ขอเงินไปซื้อเหล้า 20 บาท แต่ตนเองก็ไม่ได้ให้ไว้

จากนั้นตนเองได้นอนพักผ่อน กระทั่งช่วง 10 โมงกว่าๆ มีคนโทรมาบอกว่า แม่ถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว ตนเองไม่อยากจะเชื่อ และรีบขี่รถมาที่เกิดเหตุ ยอมรับว่า พอได้เห็นสภาพศพแม่แล้วรับไม่ได้ หมดคำพูดจะบอก และอยากให้ตัวผู้ก่อเหตุทำได้โทษประหารชีวิต เพราะที่ผ่านมา แม่ตนเองไม่เคยรู้จักกัน แต่มันกลับทำแม่ผมถึงขนาดนี้

หนุ่มทหารเก่าทุบคว้านสมองป้าเมา ลากร่างประจาน คาวเลือดหึ่งบอกรำคาญถูกด่า