สายไหมต้องรอด บุกช่วยเด็กหญิงถูกแม่เลี้ยงทำร้ายร่างกาย อ้างทำไปเพราะสั่งสอน

วันที่ 20 มิ.ย. 2566 ทีมข่าวช่อง 8 ได้ลงพื้นที่พร้อม ด้วย "นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ" ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเจ้าหน้าที่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือเด็ก ได้พบกับ ผู้ที่โพสต์ คือพ่อของเด็กหญิง ที่ถูกทำร้ายร่างกายได้เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เขาโพสต์คลิปดังกล่าว เพราะไม่พอใจที่เมียทำร้ายลูก ทำเกินกว่าเหตุที่ไปตบตีลูกสาว ซึ่ง ลูกสาวที่ถูกตีเป็นลูกติดของเขา (ต่างคนต่างมีลูกติด และมามีลูกด้วยกัน 1 คน)

และที่ผ่านมาก็เห็นมาตลอดว่าตีลูกแบบรุนแรง ทั้งตบหน้า ตบปาก และมีอารมณ์ฉุนเชียวตลอด ยอมรับว่าเคยกระทืบเมียเพื่อสั่งสอน ไม่ให้ตีลูกรุนแรง แต่ที่เมียอ้างว่า ทำประชด จนไปลงกับลูก น่าจะเป็นข้ออ้าง เพราะมีพฤติกรรมโหดอยู่แล้ว และเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.66) ตนเองก็ได้ทะเลาะกันกับภรรยา เพราะตนเองเอาลูกชายคนเล็กมาเลี้ยงดูเอง เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก จึงทำให้เกิดปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้ตนนำคลิปมาโพสต์ เพื่อให้ทุกคนเห็นพฤติกรรมของภรรยาที่รุนแรง เพราะที่ผ่านมาตนเองไม่เคยตีลูกเลยทั้งลูกของตนเอง และลูกติดของภรรยา

ขณะที่ทีมข่าวยังได้พบกับ หญิงอายุ 26 ปี แม่เลี้ยงของเด็ก และเป็นคนลงมือตี เปิดเผยว่า เหตุเกิดมาแล้ว 2 สัปดาห์ วันนั้นตีลูกเลี้ยงเพราะเด็กพูดจาไม่เพราะ พูดจาทะลึ่งเกินวัย ทำให้เธอไม่พอใจ ด่าไปว่า ถ้าพูดอีกจะตบปาก และเมื่อเด็กพูดอีกเธอก็ตบปาก

ส่วนคลิปที่ถูกบันทึกจาก น้องสาวของสามี ที่เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิป เพื่อไปบอกพี่ชายว่าลูกถูกทำร้าย และหลังเกิดเหตุ เธอและสามีก็ได้มาเคลียร์กัน ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าเธอทำรุนแรงกับลูกเลี้ยงไปจริง ปนกับอารมณ์ประชดประชันสามีด้วย แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้คุยจบกันไปแล้ว เธอยังมองว่า การที่สามีเอาคลิปที่เคลียร์กันไปแล้วมาลงอีก เพราะว่า ทะเลาะกันที่เธออยากนำลูกชายคนเล็กกลับมาเลี้ยง และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเธอเคยตีลูกที่ติดของเธอมาหรือไม่ ก็บอกว่า ไม่เคยตีรุนแรง และเมื่อถามกลับอีกว่า หากสามีมาตีลูกติดของเธอ เธอจะรู้สึกยังไง ก็บอกว่า ก็คงรู้สึกไม่พอใจเช่นกัน ที่มีคนมาทำร้ายลูก

ทีมข่าวได้ไปสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียง บอกว่า ที่ผ่านมาเห็นแม่เลี้ยงตีเด็กเป็นประจำในลักษณะแบบผู้ใหญ่ตีเด็ก แต่ในบางครั้งก็มีตีรุนแรงกว่าปกติ ซึ่งตนเองก็มองว่ารุนแรง เกินไปที่จะสั่งสอนหรือทำโทษเด็ก และตนเองยังพบว่าพฤติกรรมของผู้หญิงที่ก่อเหตุเป็นคนค่อนข้างอารมณ์รุนแรงและก้าวร้าว

ทางด้าน "นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ" ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า เมื่อตนเองได้รับเรื่องก็ประสาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าช่วยเหลือ เพราะเหตุการณ์ได้เกิดแล้วและมีการใช้ความรุนแรงกับเด็กซึ่งไม่เหมาะสม เพราะลักษณะการตี เป็นการตีที่ทรมานเด็ก และแม้ว่า จะมีการเคลียร์กันแล้วของผู้ปกครองแต่ก็จะต้องมีการดำเนินคดี

ขณะที่ นางสาวกุลจิรา โฉมไสว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ พม. เปิดเผยว่า พฤติกรรมดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วนความผิด คือ การทำร้ายเด็กที่ส่งผลต่อเด็ก และ พ่อแม่ทะเลาะกันแล้วส่งผลกระทบต่อเด็ก ซึ่งความผิดสองค่ายนี้จะเข้าความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครอง เด็ก และ พ.ร.บ.ผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว รวมถึง เข้าข่ายทำร้ายร่างกาย ซึ่งหากพ่อเด็กไม่แจ้งความดำเนินคดีทางเจ้าที่ พม.จะเป็นคนแจ้งความเองได้ทันที ส่วนหลังจากนี้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กทางพ่ออาจจะได้สิทธิ์ไปดูแลเด็กหญิงอายุ 6 ขวบและลูกชายคนเล็กไป เนื่องจากแม่เลี้ยงอาจจะถูกดำเนินคดี

ส่วนความคืบหน้าของการดำเนินคดี พันตำรวจเอกศุภศักดิ์ โปรียานนท์ ผู้กำกับการสน.บางเสาธง เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญทั้งตัวพ่อ และแม่เลี้ยงมาแยกห้องสอบ และแม้ว่าจะมีการเคลียร์กันไปแล้ว แต่หากมีการแจ้งความก็จะดำเนินคดีใน ข้อหา ทำร้ายร่างกาย และพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ส่วนเด็กก็จะมีการสอบปากคำร่วมกับนักจิตวิทยาและสหวิชาชีพเด็กและเจ้าหน้าที่ พม.ร่วมด้วย