มือปืนพระกาฬยิงข้ามถนนเจาะหัวไรเดอร์ลูกทั้ง 3 กำพร้า ลากคอได้ 1 ยังปากแข็ง

จากกรณีเมื่อเวลา 18.30 น. เมื่อวานนี้ (13 มิ.ย.) ตำรวจ สน.หนองจอก รับแจ้งเหตุชายถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ปากซอยเลียบวารี 32 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม.

จากการสอบสวนเบื้องต้น ไม่ใช่เหตุนักเรียนช่างกลยิงกัน ผู้เสียชีวิตไม่ได้เรียนหนังสือ มีอาชีพเป็นไรเดอร์ ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน พร้อมเร่งตรวจกล้องวงจรปิดโดยรอบเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพกล้องวงจรปิดวินาทีที่คนร้ายได้ขี่รถไล่ยิงหนุ่มไรเดอร์ โดยจะเห็นว่า กล้องวงจรปิดตัวที่ 1 จากปากซอยเรียบวารี 43 ในเวลา 18:21.54 น.จะเห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับซ้อนท้ายกันไป 2 คนโดยไม่สวมหมวกกันน็อค และในเวลา 18:21.56 น. จะเห็นว่ามีวัยรุ่นชาย 2 คน คือผู้ก่อเหตุ สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบขับรถสวนมาในเลนส์ฝั่งตรงข้าม หลังจากที่ก่อเหตุยิงนายธนบัตรเสร็จแล้วมุ่งหน้าไปทางหนองจอก

อีกมุม กล้องตัวที่ 3 ช่วงเวลาเดียวกันจะเห็นว่า รถมอเตอร์ไซค์ของคนร้ายซึ่งอยู่อีกฝั่งได้ขี่สวนทางกับรถมอเตอร์ไซค์ของผู้ตาย โดยคนร้ายอยู่อีกฝั่งถนนคนละฝั่ง

ก่อนที่จะเห็นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย จะใช้ปืนยิงใส่รถมอเตอร์ไซค์ของผู้ตายที่อยู่อีกฝั่งทันทีขณะนั่งซ้อนท้าย ซึ่งมีความชำนาญในการใช้ปืนมาก เพราะระยะห่างจากจุดยิงห่างกับผู้ตายห่างประมาณ 5 เมตร แต่กระสุนได้พุ่งเข้าขมับของน้องแป๊ะทันที และจะเห็นรถของฝั่งผู้ตายไถลไปตามพื้นถนน

สอบถามนายบัง(นามสมมุติ) น้องชายของผู้ตายที่นั่งซ้อนท้ายไปด้วยวันเกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนที่คนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย ตะโกนเรียกชื่อตนเองบอกว่า “นี่มันไอบังนี่หว่าๆ” และบอกให้หยุดรถ เห็นคนร้ายเล็งปืนมาแล้วยิง ผมเลยก้มหลบ และกระสุนไปโดนพี่ชาย

ด้วยความตกใจและไม่รู้ว่าเป็นใคร พี่ชายของตนเองจึงรีบบิดมอเตอร์ไซค์หนี แต่คนร้ายยังได้ขี่รถตาม ก่อนจะชักปืนยิงใส่ทันที โดยตนเองขณะนั้นเห็นคนร้ายเล็งปืนมาที่ตนเองกำลังจะยิงใส่ จึงได้ก้มหลบกระสุนปืน ทำให้พี่ชายที่เป็นคนขี่ก้มหลบไม่ทัน กระสุนจึงเข้าบริเวณขมับขวา 1 นัด จนรถล้ม ตอนแรกก็คิดว่า กระสุนไม่ถูกใคร และเมื่อตนเองหลังจากรถล้มได้สติ รีบหันไปหาพี่ชาย ก็พบว่า พี่ชายนอนคว่ำแน่นิ่งไปแล้ว ตนเองพยายามโทรหาพี่สาว เรียกเจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ พี่ชายได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางซำซูรี สุรเชษฐไชยกุล อายุ 39 ปี แม่ของน้องแป๊ะผู้ตาย วันนี้ได้เดินทางไปรับศพของลูกชาย เธอบอกกับทีมข่าวว่า ลูกชายของตนเองมีอาชีพเป็นไรเดอร์รับส่งอาหาร หาเงินเลี้ยงน้องอีก 3 คน วัย 3 ขวบ 15 ,16 และตนเองซึ่งตกงาน ลูกชายเธอเป็นเสาหลักของบ้านที่หาเงินเลี้ยงครอบครัว

ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ขี่รถมอเตอร์ไซต์ไปกับน้องเพื่อไปซื้อไก่ย่าง นม และผ้าอ้อมให้น้องคนเล็ก แต่ยังไม่ทันจะซื้อก็ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ตนเองเมื่อทราบข่าวตอนนั้นหัวใจแทบสลาย ไม่คิดว่าลูกจะถูกยิงตาย เพราะชีวิตของลูกน่าสงสารมากเพราะแม่กับพ่อแยกทางกัน และลูกชายต้องหาเงินเลี้ยงทุกคนในครอบครัว ที่ผ่านมาลูกไม่เคยมีเรื่องกับใคร ทำอาชีพสุจริต และไม่ได้เรียนหนังสือทำงานเพียงอย่างเดียว

ตนเองหลังจากนี้ไม่รู้จะพึ่งพาใครหลังเสียลูกชายไป ซึ่งตนเองอยากให้ตำรวจจับคนร้ายที่ทำลูกมาดำเนินคดีใฟ้ได้โดยเร็วที่สุด

ล่าสุดศาลได้ออกหมายจับสองคนร้ายที่ก่อเหตุเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อและข้อหาได้ และยืนยันว่าตำรวจไม่ได้จับแพะหรือจับผิดตัวอย่างที่ญาติของผู้ต้องหาได้กล่าวหา โดยจับได้ 1 คนแล้ว คือ นายพิทักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ส่วนอีกคนยังคงตามจับอยู่

ส่วนที่ญาติยังอยู่รอที่โรงพัก และโวยวายตำรวจว่าไม่มีหลักฐานอย่างให้ญาติใจเย็นก่อนๆ และไปสู้ในชั้นศาล

และล่าสุด 1 ทุ่มที่ผ่านมา ญาติของนายพิทักษ์ ยังคงยืนอยู่ด้านหน้าห้องขังบนโรงพักด้วยความเป็นห่วงหลานชาย เพราะจากที่สอบถามหลานชาย นายพิทักษ์ยังยืนยันว่า ตัวเองไม่ได้ก่อเหตุ และวันเวลาเกิดเหตุนั่งอยู่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน และบอกว่า ตำรวจได้นำเอกสารบันทึกจับกุมและแจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ให้เซ็น ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ทำ โดยเจ้าตัวได้ขอความเป็นธรรมผ่านญาติที่ยืนอยู่หน้าห้องขังอีกด้วย

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางต่อมายังสถานีตำรวจนครบาลหนองจอก พบว่า ทางตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 1 ราย มาสอบปากคำ

เราได้พูดคุยกับ นางสาวเปรี้ยว อายุ 32 ปี น้าสาวของชายผู้ต้องสงสัยรายนี้ เปิดเผย ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาโรงพักเพื่อให้หลานแสดงความบริสุทธิ์ใจ มีตำรวจจาก สน.นิมิตรใหม่ โทรศัพท์มาบอกกับตนเองและครอบครัวว่า ให้นำตัวหลานชายมาให้ปากคำกับตำรวจ สน.หนองจอก และถ่ายรูปทะเบียนราษฎร์ พร้อมกับเขียนชื่อใต้ภาพว่า ฮัฐ ซึ่งแท้จริงแล้วหลานตนเองไม่ได้ชื่อนี้

แต่หลานชายของตนเองชื่อ นาย ดะลี หรือ บู้ อายุ 22 ปี จึงให้หลานชายเดินทางมาพบกับตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่เมื่อมาถึงตำรวจกลับคุมตัวหลานชาย บอกว่ารอศาลอนุมัติหมายจับ ในพฤติการณ์ก่อเหตุยิงนายธนบัตร ซึ่งตนเองและครอบครัวตกใจอย่างมาก

เพราะยืนยันได้ว่าขณะช่วงเวลาที่ตำรวจแจ้งว่าเกิดเหตุนั้น หลานชายนอนหลับพักผ่อนอยู่ในบ้านย่านคู้ซ้าย ซอยแบนชะโด ไม่ได้ออกไปนอกบ้านอย่างแน่นอน มีเพียงแต่ช่วงเวลาประมาณบ่ายโมง ที่หลานชายออกจากบ้านไปซื้อน้ำโค้กที่ร้านขายของชำข้างบ้านเพื่อมาผสมน้ำใบกระท่อม แต่ไปไม่นานก็กลับมานอนที่บ้าน โดยตนเองสามารถหาหลักฐานกล้องวงจรปิดมายืนยันความบริสุทธ์ของหลานได้ อีกทั้งยังเชื่อ 100% ว่า หลานไม่ได้เป็นคนก่อเหตุอย่างแน่นอน

มือปืนพระกาฬ ฆ่าผิดตัว!