สาวสุดทนแจ้งความเอาผิดผัวใหม่เมาแล้วซาดิสม์ กัดคอ กดหัวลงคอห่าน เชือกรัดคอลูกเลี้ยงวัย 4 ขวบ

วานนี้ (7 มิ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ประไพพร แม้กระโทก หรือ “อ้อม” อายุ 35 ปี ชาวต.ปวนพุ อ.หนองหิน จ.เลย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูกนายพงษ์ศักดิ์ สิงบุดดี อายุ 33 ปีสามีใหม่รุ่นน้องห่างกันสองปี ชาว ต.นาภู อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม ทำร้ายร่างกายตนเองและพยายามใช้เชือกรัดคอลูกชายชื่อน้องเอิร์ธ วัย 4 ขวบ แต่ตนเองช่วยลูกชายรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 3 มิ.ย.66 ที่ผ่านมาที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในอ.เมือง จ.อุดรธานี หลังจากนั้นได้พาลูกหนีตายออกมาขออาศัยอยู่กับเพื่อนบ้านและตอนนี้สามีใหม่รุ่นน้องยังตามหา เกรงไม่ปลอดภัยจึงอยากให้ตร.ติดตามจับมาดำเนินคดี

น.ส.ประไพพร เปิดเผยว่า ตนเองได้รู้จักกับนายพงษ์ศักดิ์ได้ประมาณ 1 ปีและมาอยู่ด้วยกันทำงานรับจ้างทั่วไป แต่ก่อนเขาก็ปกติดี แต่หากเมามาเมื่อไหร่จะโวยวายจะทำร้ายตนเองและลูกชาย แต่ที่หนักคือวันที่ 3 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา สามีใหม่เมามาจากไหนไม่รู้ เข้ามาแล้วก็โวยวายอาละวาดทำไมไม่เอาลูกมานอนใกล้ๆ จากนั้นก็เอามือไปฉีกปากลูก จกตาและแหย่จมูกลูก พอตนบอกว่าอย่าไปทำลูกให้เขานอน สามีก็ไม่พอใจ มึงไม่รักกูหรือ จากนั้นก็เดินมาหาตนแล้วใช้ฟันกัดตนเองบริเวณแก้ม และตามร่างกาย จากนั้นผัวใหม่คนนี้ลากตนเองเข้าห้องน้ำพยายามถอดเสื้อผ้าตนเองแล้วกดศีรษะใส่ชักโครก ตนเองฮึดสู้กำไข่จึงรอดมาได้

ตอนนั้นร้องเรียกให้เพื่อนบ้านช่วยแต่ไม่มีใครมาช่วย มีแต่ร้องบอกว่า ให้เลิกทะเลาะกัน แต่ไม่เท่านั้นสามีใหม่วิ่งไปหาลูกชายตนเองใช้เชือกพยายามรัดคอลูกชายวัย 4 ขวบ ตนก็บอกว่า ทำร้ายหนูได้แต่อย่าฆ่าลูกชาย พยายามปกป้องลูกชาย ตนรีบเข้าไปช่วยลูกชายรอดตายอย่างหวุดหวิด แต่ลูกชายหนูก็ปากแตกมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย จากนั้นตนเองก็ขับรถพาลูกชายหนีตายพาไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เขาจะฆ่าลูกชายและทำร้ายหนู แบบนี้ทนไม่ได้มันหลายครั้งแล้ว หัวอกคนเป็นแม่พูดไปน้ำตาคลอไป ขณะที่ตร.หลังรับแจ้งความ ก็จะได้ติดตามนายพงษ์ศักดิ์มาพูดคุยกับทางภรรยาอีกครั้งว่าจะเอาอย่างไร

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับน.ส.อ้อมที่รับจ้างเกี่ยวหญ้าไปขาย พร้อมเปิดเผยว่า จนถึงตอนนี้สามีใหม่พยายามตามหาตนเอง ไม่กลับไปคบกับเขาอีกแล้ว และตนเองห่วงว่าเขาจะไปดักรอทำร้ายลูกชายอีก จึงมาแจ้งความเพื่อให้ตร.จับกุมสามีใหม่คนนี้และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เคยให้อภัยมาแล้วหลายครั้ง แต่ตอนนี้ทนไม่ไหวเพราะจะทำร้ายและฆ่าลูกชายตนเอง น.ส.อ้อมกล่าวตอนท้าย