สลดใจ อาม่าป่วยอัลไซเมอร์ไม่รู้น้องชายเสียชีวิต 3 วัน นั่งเช็ดตัว ห่มผ้าให้กลัวหนาว ด้านกู้ภัยมาช่วย จุ๊ปากเบาๆกลัวน้องตื่น

วานนี้ (12 พ.ค. 66) ร้อยตำรวจเอก ประยูร วิทยา รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักอาศัย ภายในซอยพุทธบูชา 44 แยกย่อยซอยที่ 11 จึงรับรุดจัดกำลัง พร้อมประสาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นล่างสุดของตัวบ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาสาสมัครเดินเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านก็พบกับร่างผู้เสียชีวิตในสภาพบวมอืดส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งรุนแรงอยู่บนโซฟา ในลักษณะท่านอนหงาย สวมใส่เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีส้ม กางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า

จากการตรวจสอบสภาพศพแล้วคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน ซึ่งต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตชื่อ นายสมชาติ วิสิทธิภักดีกุล อายุ 73 ปี มีอาชีพขายเสื้อผ้ามือสอง และภายในบ้านยังพบกับ นางสาววันทนา แซ่ต้น อายุ 82 ปี เป็นพี่สาวแท้ๆของผู้เสียชีวิต และยังป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งนอนอยู่บนเตียงข้างๆศพผู้เสียชีวิต โดยที่ตนไม่รู้ว่าน้องชายแท้ๆของตนเองนั้นได้เสียชีวิตแล้ว

ซึ่งในครั้งแรกที่อาสาสมัครกู้ภัยเดินเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านนั้น อาม่ายังบอกให้กู้ภัยใช้ความเงียบหน่อยเพราะเกรงว่าน้องชายของตนเองจะตื่น แล้วยังนำผ้าห่มสีขาวมาคลุมทับร่างของผู้ตายเอาไว้ เพราะเกรงว่าน้องชายของตนเองจะโดนยุงกัด และอาจจะหนาวในช่วงดึกๆเพราะกลัวว่าอากาศจะเย็นแล้วจะทำให้น้องชายตนเองเป็นหวัดได้ ด้วยความรักและความเอาใจใส่ของพี่สาวแท้ๆ ซึ่งห่วงน้องชายของตนเองจึงทำให้เป็นภาพที่สะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งกับผู้ที่พบเห็น ส่วนตอนเช้า กับช่วงบ่ายๆ จนถึงเย็น ก็จะคอยเอาผ้ามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อยู่ตลอดเวลา เพราะเกรงว่าน้องชายของตนเองจะร้อนแล้วจะนอนไม่สบายตัว

จากการสอบถาม นายสมชัย วงศ์พฤติ อายุ 77 ปี บอกว่า ตนรู้จักกับทางญาติของคนตายอีกทีนึง เมื่อ 2 วันก่อน เค้าโทรติดต่อน้องชายไม่ได้ ติดต่อที่บ้านนี้ก็ไม่ได้ เลยโทรหาตนให้มาดูให้หน่อย ตนก็รับปากจะมาดูให้ สักพักนึงเค้าก็โทรกลับมาบอกว่า ติดต่อได้แล้ว พี่สาวคนตายบอกไม่เป็นอะไร เค้านอนหลับอยู่ ไม่ต้องมาดูหรอก ตนก็ไม่ได้เอะใจเลยยังไม่ได้เข้ามาดู

พอมาวันนี้โทรมาหาตนบอกว่าเข้าไปดูให้หน่อยแกเสียชีวิตแล้ว ตนจึงเข้ามาดก็ปรากฎว่า นอนเสียชีวิตตรงโซฟานี่มา 2 วันแล้ว แล้วพี่สาวที่อยู่ด้วยก็เป็นอัลไซเมอร์ ดูแลเช็ดตัวให้มาตลอด 2 วัน แกไม่รู้จริงๆ เช็ดตัวให้จนแขนเปื่อยถลอก ตอนนี้ก็บวมอืด ส่วนผ้าคลุมนั่น พี่สาวก็เป็นคนคลุมให้ แกเช็ดตัวแล้วก็ห่มผ้าให้ประจำ

ด้านนายสรศักดิ์ ชินมา อายุ 44 ปี บอกว่า ตนมาส่งของเพราะแกสั่งของที่ร้านและตนก็มาส่งให้ประจำ มาถึงแกนั่งรออยู่ที่เก้าอี้แดงหน้าบ้าน ตนก็ได้กลิ่นเหม็นเลยมองเข้าไปด้านในเลยถาม อาม่า น้องชายอาม่าเป็นอะไร แกบอกน้องนอน ตนบอกไม่ใช่แล้วอาม่าน้องชายอาม่าตายแล้ว แกยังทำปากจุ๊ๆ อย่าเสียงดังน้องหลับอยู่ ตนเห็นลิ้นจุกปาก บวมอืด มีน้ำเลือดน้ำหนองไหลออกแล้ว ตนเคยเห็นคนตาย ตนก็รู้ แต่อาม่าแกก็นั่งเช็ดให้ ตนจึงโทรแจ้ง 191 ให้มาตรวจสอบ

ส่วนนางสาววันทนา แซ่ต้น อายุ 82 ปี บอกเล่าว่า ตนเป็นพี่สาวเห็นน้องชายนอนหลับไปก็คอยเช็ดตัวให้เพราะเกรงว่าจะร้อนแล้วจะนอนไม่สบายตัว น้องชายตนหลับไปประมาณ 3 วันแล้ว ก็คอยเช็ดตัวให้ตลอดเลย แต่คืนนี้คนมาเยอะก็เลยเอาผ้าห่มมาคลุมให้

ส่วนบ้านหลังดังกล่าวปกตินางสาววันทนา จะอยู่เพียงลำพังผู้เดียว ส่วนผู้ตายจะมาหามาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนผู้ตายพักอาศัยอยู่ย่านเจริญกรุง และเมื่อประมาณ 3-4 วันที่แล้วได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ 100 i สี บลอนเทา ทะเบียน 1 กฆ 3309 กรุงเทพมหานคร มาหา นางสาววันทนา ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้ออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวอีกเลย

เบื้องต้นจากการตรวจสอบจากแพทย์นิติเวชศิริราช และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่พบบาดแผลภายในร่างของผู้ตาย และภายในบ้านก็ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้หรือถูกรื้อค้น ส่วนทางด้านญาติของผู้ตายก็ไม่ได้ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต จึงมอบร่างผู้เสียชีวิตให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป