"ครูปรีชา" ยัน "ทนายตั้ม" แอบถ่ายคลิปคดีหวย 30 ล้าน แฉอ้างเป็น จนท.ดีเอสไอ จริง เตรียมร้องสภาฯ สอบมรรยาททนายความ

วันนี้ 26 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเพจ "ออยศรีและผองเผือก" นำคลิปวิดีโอการสนทนากันระหว่าง นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กับนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เจ้าของวลี "ความจริงก็คือความจริง" คู่กรณีคดีหวย 30 ล้านอลเวง ระหว่างครูปรีชา กับ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน มาโพสต์ลงในเพจ พร้อมกับระบุว่า

"ไม่เคยอัดคลิปแบล็คเมลล์ใครหรอ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ แต่เมื่อครั้ง คุณได้รับการขอความช่วยเหลือจากลุงจรูญ ก่อนคุณจะรับทำคดีหวยให้เขา คุณแอบปลอมตัวไปคุยกับครูปรีชา หลอกให้เขาเปิดข้อมูลที่มีให้ดู แล้วคุณก็อัดเสียง อัดคลิปเห็นยันข้อมูลที่ครูปรีชาเปิดให้ดู คุณทำแบบนี้ เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการต่อสู้กับครูปรีชา เพื่อล้วงความลับคู่ต่อสู้ แล้วคุณก็ยังเอามาเปิดโชว์บนสื่ออย่างภาคภูมิใจอีก ไม่ว่าครูปรีชาจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก แต่สิ่งที่คุณทำคือการก้าวล่วงซึ่งข้อมูลคู่กรณีของลูกความ คุณษิทราคะ แบบนี้ สิ่งที่คุณทำไม่ได้แบล็คเมล์ใช่ไหม แค่ไปหาหลักฐานมาทำคดีให้ลูกความ หาแบบไหน วิธีไหนก็ได้ ที่จะได้หลักฐานมา คุณเป็นนักกฎหมาย คุณทำเรื่องราวแบบนี้แล้วเรียกคุณ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่ามหาโจร แล้วคุณให้ฉายาตัวเองว่าอะไรดีคะ? ที่ใช้วิธีสกปรกกับครู ปรีชา ใคร่ครวญ แบบนั้น

การที่ฉันตั้งคำถามแบบนี้ไม่ได้แปลว่าวันนี้ฉันเชื่อครูปรีชา แต่ฉันกำลังถามว่า สิ่งที่คุณทำ มันถูกต้อง และเป็นคนดีจริงๆงั้นหรือ และคุณเหนือกว่าคำว่า #มหาโจร ตรงไหน ส่วนตัวก็รู้สึกเสียใจที่เคยมองข้ามข้อนี้ในตัวคุณ ณ.วันนั้นในวันที่คุณทำคดีนี้ ฉันขอชดใช้ด้วยการช่วยๆกันเปิดแผลของคุณที่ทำไม่ถูกต้องต่อผู้อื่นเอาไว้ เพื่อไม่ให้คนไทยตกเป็นเหยื่อของคุณง่ายๆอีกต่อไป

ใช่ค่ะ คุณษิทรา ไม่เคยอัดคลิปมาแฉ คุณหลอกอัดคลิปคู่กรณี เอาไปหาผลประโยชน์ให้ตัวเองและลูกความเท่านั้น ส่วนคลิปที่คุณออกมาแฉ และให้เครดิตตัวเองว่า #ษิทราเรคคอร์ด นั้น ส่วนมากก็รับมาจากคนอื่นก็ไม่รู้ว่าแฉฟรีหรือรับเงินเขามาแฉดิสเครดิตใครต่อใครหรือเปล่า ออยศรีและผองเผือก รายงาน ลิ้งแอบถ่ายครูปรีชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้างต้น พบว่าคืนที่ผ่านมา นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ได้เขียนข้อมูลโพสต์ลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า "คดีหวย 30 ล้าน..เนิ่นมา เกือบ 6 ปี...มีสิ่งที่ค้นพบอีกหลายประการ..เร็วๆนี้ความจริงจะปรากฎ @ความจริงก็คือความจริง ..( เสมอ ) 555"

จากโพสต์ดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชากรไทย ลำดับที่ 9 ที่สวนอาหารครูปรีชา หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อสอบถามถึงจุดประสงค์ที่ครูปรีชาโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก

โดยครูปรีชา ใคร่ครวญ ได้เปิดเผยว่า คลิปที่ทนายษิทรา นำไปโพสต์เผยแพร่ เป็นการแอบบันทึกภาพโดยที่ตนเองไม่รู้ โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2560 ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ที่โรงเรียนเทพมงคลรังษี ที่ขณะนั้นตนเองสอนอยู่ มีการพูดคุยกันนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยทนายษิทรา มากับทีมงานเป็นวัยรุ่นประมาณ 2-3 คน แสดงตัวกับตนเองว่า มาจากดีเอสไอ และระบุว่า มาเป็นผู้ประสานงานระหว่างตนเองกับลุงจรูญเพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ก็ขอดูโทรศัพท์ตนเอง เพื่อดูบันทึกการพูดคุยการสั่งซื้อลอตเตอรี่ทางแอปฯ ไลน์ ถ้าหากในไลน์มีการสั่งซื้อลอตเตอรี่เลขดังกล่าวจริง จะให้ลุงจรูญนำเงินมาคืนให้กับตนเอง แต่ขณะนั้นยังไม่ได้เป็นข่าวดัง

ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นครูบ้านนอก คิดแต่เพียงว่ามีคนมาประสานงานให้ก็ดี เรื่องจะได้จบ ๆ ไป ไม่ต้องมีคดีความ ยืนยันว่าในวันนั้น ทนายตั้ม ไม่ได้บอกว่า ตัวเขาเป็นทนายความ หรือเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ แต่อย่างใด

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้คนดีเป็นคนเลว คนเลวเป็นคนดี ดังนั้นตนเองจะได้รวบรวมข้อมูล เพื่อเปิดโปง ทนายษิทรา ในคดีหวย 30 ล้าน เพราะหลักฐานสำคัญแห่งคดีนั้นหายไป คือ ซองพลาสติกที่ใส่ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ชุดดังกล่าว ที่เป็นของกลาง และภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุที่ติดตั้งอยู่บริเวณตลาดเรดซิตี้ที่บันทึกเหตุการณ์วันเกิดเหตุวันที่ 31 ตุลาคม 2560 และนำหลักฐานที่ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทำให้คดีหวย 30 ล้าน ที่ตนเองเป็นโจทก์ ถูกยกฟ้อง ซึ่งตนเองจะร้องไปยังคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบคดีหวย 30 ล้านใหม่อีกครั้ง และจะร้องไปยังสภาทนายความ เรื่องมรรยาททนายความ กรณีการกระทำของ ทนายษิทรา ต่อไป