เกิดเรื่องฉาวขึ้นที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวินจักรยานยนต์หัวร้อน ไปมีเรื่องกับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และมีคลิปชักมีดข่มขู่ชัดเจน

เจ้าหน้าที่กู้ภัยหน่วยหนึ่งบันทึกเหตุการณ์นาทีที่ ชายวินจักรยานยนต์ เบอร์ 12 มีเรื่องกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 คน โดยในมือวินจักรยานยนต์ มีมีดอยู่ด้วย เหตุเกิดบนถนนพัทยาสายสอง หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเมื่อกลุ่มผู้ถ่ายคลิปเห็นท่าไม่ดี จึงลงจากรถไปห้ามปราบ และวอแจ้งตำรวจ

ซึ่งระหว่างนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา เข้าระงับเหตุ ทำให้ทราบว่าคู่กรณี 2 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง ที่มาเล่นน้ำสงกรานต์ที่พัทยา และมีปัญหากับค่าเรื่องค่าโดยสาร ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน พยายามบอกเจ้าหน้าที่เทศกิจว่า วินจักรยานยนต์มีมีด และพยายามจะฆ่าพวกเขา

ค่ำวันที่ 13 เม.ย. 2566 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปสอบถาม เจ้าหน้าที่เทศกิจเมืองพัทยา ที่อยู่ในเหตุการณ์ คือ นายศักดิ์ดา โอทายะ 49 ปี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น บริเวณปากซอย 6/1 ถนนพัทยาสายสอง ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ โดยเมื่อวานนี้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ อำนวยความสะดวกช่วงสงกรานต์อยู่ ได้รับแจ้งผ่านวอ จึงเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงก็พบวินจักรยานยนต์ ที่ถูกชาวบ้านกันตัวไว้ ไม่ให้ออกจากจุดเกิดเหตุ ขณะที่นักท่องเที่ยว 2 คน ก็พยายามอธิบายเหตุการ์ให้ฟังว่า จะถูกทำร้าย จึงประสานตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้ามาจัดการ โดยระหว่างนั้นก็พยายามเจรจาให้ทั้ง 2 ฝ่ายใจเย็นลง

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้ไปสอบถามวินจักรยานยนต์ ในคลิป ทราบชื่อคือ นายรพล อายุ 70 ปี เป็นวินรถจักรยานยนต์หน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ข้างศูนย์การค้าถนนพัทยาสายสอง เล่าให้ฟังว่า เมื่อเย็นวานนี้ ได้รับนักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน จากที่พักไปส่งที่บาร์เบียร์แห่งหนึ่ง ที่ซอย 6 ถนนพัทยาสายสอง ตกลงราคาคนละ 80 บาท 2 คนรวมเป็น 160 บาท แต่เมื่อไปถึงที่หมาย นักท่องเที่ยว กลับจ่ายเงินเพียง 80 บาท จึงทวงถามเงินอีก 80 บาทที่เหลือ แต่นักท่องเที่ยวไม่ยอมจ่าย จนเกิดการโต้เถียงกัน ด้วยความโมโหจึงชกหน้าผู้โดยสาร ไป 1 ครั้ง แต่ถูกนักท่องเที่ยวอีกคนชกกลับ จึงพกมีดปอกผลไม้ที่พกติดตัวไว้ ออกมาป้องกันตัว ไม่ได้มีเจตนาจะแทงนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด

ซึ่งเมื่อตำรวจ สภ.เมืองพัทยา มาไกล่เกลี่ย นักท่องเที่ยวตกลงไม่เอาเรื่อง และขอเงินค่าโดยสารที่จ่ายไป 80 บาทคืนด้วย ก่อนต่างฝ่าย ต่างขอโทษกันไป นายรพล วินรถจักรยานยนต์ ก็ฝากขอโทษสังคม ที่ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลสงกรานต์เสียหาย ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการสื่อสารกันที่ไม่เข้าใจ

อย่างไรก็ตาม แม้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน จะไม่แจ้งความดำเนินคดี แต่วินจักรยานยนต์อาจจะถูก กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการย้อนหลังได้ เพราะการพกอาวุธติดตัวเช่นนี้ มีความผิดชัดเจน