แม่น้ำป่าสักเปลี่ยนเป็นสีเขียว ชาวบ้านหวั่นอันตราย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสาเหตุ

วันที่ 31 มีนาคม 2566 จากกรณีที่มีผู้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก กลุ่มแจ้งเหตุลพบุรี ถึงเหตุการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสักบริเวณพื้นที่ บ้านท่าแสมสาร บ้านท่าดินดำ ต.ท่าดินดำ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เปลี่ยนสีเป็นสีเขียวและมีกลิ่นเหม็น เกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้ต่อไปไม่นาน ปลาในแม่น้ำจะตายเป็นเบือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ โดยมีผู้ที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมาย เกรงว่าอาจเป็นอันตรายกับระบบนิเวศและทำให้สัตว์น้ำและปลาตายจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงยังที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านที่กำลังพายเรือหาปลา กล่าวว่า น้ำในแม่น้ำป่าสักช่วงบริเวณบ้านท่าแสมสาร-บ้านท่าดินดำ มีเหตุการณ์น้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียวที่บริเวณริมน้ำชายตลิ่งจริง เป็นระยะทางยาว 3-4 กม. แต่ยังไม่พบว่าปลาตายแต่อย่างใด และเมื่อลงไปสำรวจในแม่น้ำป่าสักบริเวณใกล้กับหน้าวัดท่าแสมสาร พบว่า น้ำในแม่น้ำป่าสักซึ่งไหลลงสู่ด้านล่างแบบช้าๆ ส่วนที่บริเวณในน้ำติดริมตลิ่งมีคราบสีเขียวลอยอยู่บนผิวน้ำจำนวนมาก เป็นทางยาวหลายกิโลเมตรแต่ไม่ส่งกลิ่นเหม็นแ ยังไม่พบปลาลอยตายแต่อย่างใด

จากการเปิดเผยของ ร.อ.อุทัย ยิ้มแย้ม ชาวบ้านท่าแสมสาร ซึ่งนั่งตกปลาที่ริมแม่น้ำป่าสัก กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสักเปลี่ยนเป็นสีเขียวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา โดยตนพบว่า มีแผ่นตะกอนสีเขียวลอยที่ผิวน้ำเป็นจำนวนมากจริง แต่ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือว่าเน่าเสียทำให้ปลาตายที่บริเวณแถวนี้แต่อย่างใด ส่วนที่มีผู้โพสต์ว่าน้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นปลาตาย อาจจะเป็นพื้นที่ห่างออกไปก็เป็นได้ ส่วนเหตุการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสักเปลี่ยนเป็นสีเขียวนั้น ตนเองและชาวบ้านก็รู้สึกมีความกังวลว่า หากปล่อยทิ้งไว้นานไปอาจส่งผลกระทบกับระบบนิเวศน์ ทำให้น้ำเกิดการเน่าเสีย ทำให้สัตว์น้ำและปลาตายก็อาจเป็นไปได้ หรือเมื่อชาวบ้านนำสัตว์น้ำไปบริโภคอาจจะเป็นอันตราย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่แน่ชัดว่า น้ำในแม่น้ำป่าสักเปลี่ยนสีเป็นสีเขียวเกิดมาจากสิ่งใด เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน