คดีพบศพชายสวมเสื้อลายพรางถูกทิ้งในป่า จ.กาญจนบุรี ตำรวจคุมตัว 2 ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและเป็นคนลั่นไกทั้งคู่ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่พ่อคนตายเผย หักกันเรื่องหุ้นเงินซื้อปืนออนไลน์

วันที่ 30 มีนาคม 2566 พลตำรวจตรี ไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดีพบศพชายสวมเสื้อลายพรางถูกทิ้งในป่า จ.กาญจนบุรี ว่า จากการสืบสวนสอบสวนคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 2 คน คือ นายเก่ง และนายไนซ์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนมีปืนคนละกระบอก และได้ลั่นไกปืนด้วยกันทั้งคู่ใส่นายกัส

โดยวันเกิดเหตุนายกัส ไปนั่งเล่นเกมมือถือที่บ้านของนายสปาย พยานในคดี ต่อมานายเก่งและนายไนซ์ ขับรถกระบะสีบรอนซ์ไปรับ อ้างว่าอยากให้มาเคลียร์ปัญหาเรื่องส่วนตัว ซึ่งนายกัสก็ยอมขึ้นรถเพื่อไปเคลียร์ปัญหา ระหว่างที่อยู่ในรถด้วยกันก็มีการพูดคุยกันและทะเลาะกัน นายกัสไม่พอใจจึงใช้มือตบหน้าในเก่งหลายครั้ง

จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ ทั้งสามคนมีการลงรถเพื่อเคลียร์ปัญหา ซึ่งนายไนซ์ไม่พอใจที่นายเก่งถูกตบหน้า จึงเข้าชกหน้าของนายกัส ต่อมานายกัสต่อยคืนทำให้ทั้งสองสู้กัน นายไนซ์สู้ไม่ไหว ทางด้านของนายเก่งซึ่งเป็นรุ่นพี่ของไนซ์จึงใช้ปืนยิงใส่

นายเก่งรับสารภาพว่ามีปัญหาขัดแย้งกับนายกัสมาโดยตลอด โดยทะเลาะกันมาเรื่อยๆ ซึ่งเวลานายกัสมีเรื่องเดือดร้อนเรื่องเงินนายเก่งก็จะเข้าช่วยเสมอ แต่พอนายเก่งเดือดร้อนเรื่องเงิน นายกัสไม่เคยช่วยเหลือ

ทีมข่าวได้หลักฐานภาพวงจรปิดขณะก่อนนายกัสเสียชีวิต เป็นภาพนาทีที่นายเก่งและนายไนซ์ผู้ต้องหาคดี ขับรถกระบะ Nissan รุ่น Navara สีบรอนซ์เงิน ผ่านกล้องวงจรปิดที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ย่านถนนพัฒนาการริมแม่น้ำแคว ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ช่วง 21.17 น. ของวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งอู่ซ่อมรถแห่งนี้เป็นบ้านพักของนายสปายพยานในคดี ที่นายกัสมานั่งเล่นเกมที่บ้านพัก ก่อนนายเก่งและนายไนซ์จะขับรถกระบะมาที่อู่ซ่อมรถแห่งนี้เพื่อรับไปเคลียร์ปัญหาส่วนตัว โดยจุดนี้ห่างจากจุดเกิดเหตุ 7-8 กิโลเมตร จนในที่สุดในการ์ดถูกนายเก่งและไนซ์ยิงจนเสียชีวิต

จากนั้นตำรวจคุมตัว 2 ผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดเกิดเหตุ คือ นายสิทธิชัย หรือเก่ง อายุ 26 ปี และนายจตุรภัทร์ หรือไนซ์ อายุ 20 ปี โดยมีการจำลองเหตุการณ์คืนเกิดเหตุที่ลงมือปลิดชีพนายวายุ หรือกัส อายุ 26 ปี โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า นายเก่งเป็นคนขับรถกระบะสีบรอนซ์เงินมาที่จุดเกิดเหตุ ส่วนนายไนซ์นั่งเบาะด้านหน้าข้างคนขับ และนายกัสนั่งเบาะหลัง

หลังจอดรถนายไนซ์ไม่พอใจที่นายกัสตบหน้านายเก่ง จึงลงจากรถแล้วเคลียร์ใจกับนายไนซ์ ซึ่งนายไนซ์เข้าไปชกหน้านายกัสแล้วเกิดการต่อสู้กัน ต่อมานายกัสวิ่งหนี นายไนซ์จึงควักปืนออกมาและเล็งยิงเข้าใส่ 1 นัด แล้วนายเก่งก็เล็งยิงซ้ำสองครั้ง ครั้งที่หนึ่งรัวใส่ 2 นัด ครั้งที่สองรัวใส่ 3 นัด จากนั้นนายกัสหนีเข้าไปในป่า ซึ่งตนไม่ได้ตามไป รีบขับรถหนีทันที แล้วนำไอแพดของคนตายไปโยนทิ้งน้ำไม่ห่างไกลจากจุดเกิดเหตุ

โดยระหว่างการทำแผนมีพ่อของนายไนซ์เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นห่วงลูกชาย และเพิ่งทราบว่าลูกเป็นผู้ต้องหาในคดี ซึ่งตำรวจแจ้งข้อหาทั้งคู่ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

พ่อของนายไนซ์ เปิดใจกับทีมข่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้เตรียมใจไว้ว่าลูกชายจะเป็นคนก่อเหตุคดีนี้ เพราะที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรงหรือขัดแย้งกับคนอื่น และส่วนตัวก็ไม่เคยรู้จักกับนายเก่งมาก่อน ซึ่งลูกชายไม่เคยพูดเรื่องนายเก่งให้ตนฟัง วันนี้เพิ่งได้มาเห็นหน้านายเก่งเป็นครั้งแรก ตนคิดว่าสาเหตุที่ลูกชายลงมือก่อเหตุ เนื่องจากเห็นรุ่นพี่ถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายจึงทนไม่ได้ เลยควักปืนออกมาและยิงใส่คนตายจนเสียชีวิต

ยืนยันไม่ทราบก่อนหน้านี้ว่าลูกชายพกปืน และเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยลูกชายทำผิดก็ยอมให้ไปรับโทษ แต่ในฐานะที่ตนเป็นพ่อก็ต้องช่วยลูกโดยจะยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว

ทีมข่าวได้เดินทางมาที่วัดเหนือใน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นสถานที่จัดงานศพของนายกัส โดยนายอภิวุฒิ อายุ 51 ปี พ่อของคนตาย เล่าว่า ลูกชายตนรู้จักกับนายเก่งมาหลายปีแล้ว ซึ่งทั้งคู่สนิทสนมกันและมักไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ที่ผ่านมาทราบว่าทั้งลูกชายตนและนายเก่ง หุ้นกันซื้อปืนลูกโม่จากออนไลน์ในราคา 15,000 บาท จำนวน 1 กระบอก โดยจะได้ของที่สั่งซื้อประมาณวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งลูกชายคาดหวังว่าการซื้อปืนออนไลน์ครั้งนี้จะนำไปขายต่อเพื่อเก็งกำไร แต่ปรากฏว่านายเก่งตั้งใจซื้อปืนเพื่อเอามาใช้เอง ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน

วันเกิดเหตุช่วงประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคม ลูกชายตนมาบอกตนว่าจะไปเล่นเกมออนไลน์ที่บ้านของนายสปาย ซึ่งเป็นคนรู้จักอีกคน / ตนก็ไม่ได้แปลกใจเพราะลูกชายตนก็ไปที่บ้านของนายสปายบ่อยครั้ง /แต่ปรากฏว่าลูกชายไม่กลับมาที่บ้านพักอีกเลย

ตนจึงไปที่บ้านของสปายและไปถามว่าลูกชายตนหายไปไหน ทางในนายสปายก็บอกว่า คืนวันที่ 25 มีนาคม นายเก่งขับรถกระบะมารับตัวลูกชายตนไปโดย ลูกชายตนบอกเพียงว่าจะไปเคลียร์ปัญหา

ตนจึงเดินทางไปที่บ้านของนายเก่งและไปสอบถามถึงสองครั้ง แต่นายเก่งกลับตอบว่าไม่รู้และบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ จนกระทั่งญาติของตนเห็นจากข่าวช่อง 8 ว่ามีการพบศพนิรนาม มีรอยสักบริเวณปากข้างทางใน อ.เมืองกาญจนบุรี ซึ่งคล้ายกับรอยสักของลูกชายที่หายตัวไปพอดี ตนจึงรีบติดต่อไปที่มูลนิธิเพราะเชื่อว่าศพที่เสียชีวิตก็คือลูกชายของตนที่หายตัวไป

และมั่นใจว่านายเก่งเป็นคนก่อเหตุ เพราะมีข้อความแช็ต ระหว่างลูกชายกับนายเก่งที่คุยกันเรื่องเงินซื้อขายปืน และมีภาพกล้องวงจรปิด ที่เห็นชัดเจนว่า ลูกชายได้ขึ้นรถกระบะไปกับนายเก่งเป็นคนสุดท้ายจริง

ส่วนตัวเชื่อว่าปมสาเหตุที่นายเก่งและรุ่นน้องในเก่งลงมือ เพราะนายเก่งกับลูกชายตนขัดแย้งกันเรื่องซื้อปืนออนไลน์ ตนไม่เคยคิดว่า เพื่อนสนิทของลูกชายตนจะสามารถลงมือฆ่าลูกชายตนได้อย่างใจดำและโหดเหี้ยม ตอนนี้จุกพูดอะไรไม่ออกเพราะตนคือผู้สูญเสีย