หนุ่มใหญ่สุดงง! เจอกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ พุ่งเข้าทำร้ายร่างกาย แย่งปืนยิงใส่บาดเจ็บ โชคดีหนีรอดมาได้

กรณีนายอภิชา อายุ 55 ปี พนักงานการไฟฟ้าอำเภอปากช่อ ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บ มีแผลแตกที่ใบหน้า สันจมูก ปาก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ล่าสุดวันนี้ ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปยัง จุดเกิดเหตุ คือเส้นทางเข้าหมู่บ้านหนองกระทุ่ม ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทีมข่าวได้นำโดรนขึ้นไปเก็บภาพมุมสูง จะเห็นว่าเป็นป่าต้นกระถิน ทั้งสองข้างทาง ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 2.4 กิโลเมตร

เมื่อเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่า มีพื้นที่ใช้สำหรับเผาถ่าน 4 จุด แต่ละจุดเป็นมีเจ้าของเป็นคนในหมู่บ้าน ไม่มีไฟส่องสว่าง และไม่มีกล้องวงจรปิด ลูกสาวของผู้บาดเจ็บ ให้ข้อมูลว่า พ่อเพิ่งจะเข้ามาทำอาชีพเสริมได้ยังไม่ถึงเดือน เธอไม่เชื่อว่าพ่อจะมีปัญหาขัดแย้งกับใคร ในเรื่องของการเผาถ่าน

ต่อมาทีมข่าว ได้พูดคุยกับ นายอภิชา ผู้บาดเจ็บ บอกว่า อาชีพหลักของเขา คือเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่อำเภอปากช่อง ส่วนเรื่องการเผาถ่าน เป็นอาชีพเสริมหลังเลิกงาน และเพิ่งจะเริ่มทำได้ไม่ถึงเดือน เมื่อวานนี้ก่อนเกิดเหตุเดินทางไปยังจุดเผาถ่านปกติ ไม่ได้ไปมีเรื่องกับใครมาก่อน แต่จู่ๆ มีรถเก๋งจอดอยู่ใกล้เคียงที่จุดเผาถ่าน และมีคนสองคนโวยวายเหมือนทะเลาะกัน จึงเข้าไปสอบถาม แต่ปรากฎว่ามีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่

จึงได้เดินเข้าไปดูและสอบถามว่ามีอะไรกันหรือเปล่า แต่ปรากฏว่า มีผู้ชายร่างกายสูงใหญ่ เดินปรี่เข้ามาหา เขาจึงป้องกันตัว ด้วยการต่อยไปที่หน้าเขา 1 ครั้ง ก่อนแลกหมัดกันตัวต่อตัว แต่เขาสู้ไม่ได้ ก็เลยเดินถอยหลัง หยิบปืนที่พกติดตัวมายิงขู่ แต่ก็ยังไม่ทันได้ยิง ผู้ก่อเหตุแย่งปืนไปได้ แล้วก็ยิงใส่เขา 1 นัด แต่ไม่โดน ส่วนนัดที่ 2 ยิงขึ้นฟ้า

ยอมรับว่าตกใจมาก พอสิ้นเสียงปืน ก็พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้วางปืน แต่ผู้ก่อเหตุยิ่งโมโหมากขึ้น พยายามจะลากตัวเขาไปขึ้นรถ อ้างว่าจะพาไปโรงพัก เขาจึงออกอุบายว่าเดี๋ยวจะขับรถตามไปเอง แต่ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจจริงหรือไม่ พอขึ้นรถได้ก็ขี่รถหนีกลับบ้านทันที ก่อนโทรแจ้งตำรวจ

กระทั่ง เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ตำรวจตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้

ส่วนอาการบาดเจ็บหมอเย็บแผลที่ปาก 12 เข็ม และมีบาดแผลจมูกหักต้องนอนพักรักษาตัวที่บ้านตามที่หมอแนะนำ

ทีมข่าว ได้เดินทางไปที่ สภ.ปากช่อง ตำรวจนำตัว นายย้ำมาสอบสวนเพิ่มเติม นายย้ำ อ้างว่าถูกผู้บาดเจ็บทำร้ายร่างกายก่อน ส่วนปืนแย่งมาได้ขณะที่ผู้บาดเจ็บเอาปืนจ่อหัว แต่พอแย่งมาแล้วไม่ได้ยิงใส่ผู้บาดเจ็บ แค่ยิงขู่ ส่วนที่ลากตัวผู้บาดเจ็บขึ้นรถ เพราะต้องการพามาเคลียร์ที่โรงพัก ยืนยันไม่เคยรู้จักกับผู้บาดเจ็บมาก่อน ตอนต่อยกันก็ตัวต่อตัวไม่ได้รุม

ส่วนด้านคดี ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนตามหาปืนของผู้บาดเจ็บมาเป็นหลักฐาน และสอบปากคำทั้งสองฝ่ายก่อน จึงจะแจ้งข้อหาได้ เนื่องจาก หลังเกิดเหตุ ทั้งสองฝ่ายให้การไม่ตรงกัน