ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหัวโจกเครือข่ายลวงแรงงานกว่า 30 คนทำงานมัลดีฟส์ ความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ปันไชย ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ท.ชัยชนะ สุริยวงค์ รอง ผกก.1 บก.ปคม., พ.ต.ต.ธนกร จาวรุ่งวณิชสกุล, พ.ต.ต.หญิง รัชฎาวรรณ สีไพสน สว.กก.1 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม นายชลปดิธ หรือ ตั้ม (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 612/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง” สถานที่จับกุม คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ใน อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565 กลุ่มผู้ต้องหาที่แบ่งหน้าที่กันหลอกลวงผู้เสียหายไปทำงานต่างประเทศ โดยมีหญิงไทย จำนวน 3 คน ทำหน้าที่เป็นนายหน้าในการติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย และรับโอนเงินจากผู้เสียหาย ซึ่งต่อมาในวันที่ 5 มี.ค.66 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 รายคือ น.ส.สมฤดีฯ, น.ส.รุ่งทิพย์ฯ และ น.ส.ภัทราวรรณฯ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลทราบว่า นายชลปดิธฯ เป็นหัวหน้าเครือข่ายหลอกลวงคนไทยไปทำงานที่ประเทศมัลดีฟส์ โดยนายชลปดิธฯ จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเครือข่ายในการสั่งการให้กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ ทำหน้าที่เป็นนายหน้า ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย และเมื่อถึงกำหนดในการเดินทางจะให้นายหน้าทำทีแจ้งผู้เสียหายว่า ขอเลื่อนการเดินทางเพื่อไปทำงานออกไปก่อน เนื่องจากมีผู้เสียหายบางรายเอกสารในการเดินทางยังไม่เรียบร้อย ซึ่งหลังจากมีการเลื่อนการเดินทางออกไปหลายๆ ครั้ง ทำให้กลุ่มผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับนายชลปดิธฯ กับพวก จนกว่าคดีถึงที่สุด ซึ่งจากการตรวจสอบมีผู้เสียหายกว่า 30 ราย และมีมูลค่าความเสียหายเป็นเงินมากกว่า 3 ล้านบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามตัวนายชลปดิธฯ จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่ง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหาอยู่จริง จึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับ ทำการจับกุมผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตำรวจสอบสวนกลางจึงขอฝากเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน กรณีที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ขอให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่ตนจะเดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงจากนายหน้าเถื่อนที่ไม่ได้อนุญาตตามกฎหมาย และอาจถูกบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายอันเป็นการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งหากประชาชนมีเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลมายัง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สายด่วน 1195 หรือ แจ้งมายัง กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ สายด่วน 1191