ผู้รับเหมาโค่นยางพารา ถูกลูกจ้างหนุ่มสังหารในสวนยางที่กำลังทำงาน พร้อมฝังดินอำพรางศพ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยกำลังช่วยกันขุดนำร่างผู้เสียชีวิต ขึ้นจากดินในพื้นที่สวนยางพารา บ้านหนองเรียน ต.นาใต้ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี หลังรับแจ้งมีผู้เสียชีวิตถูกฝั่งดินไว้ในพื้นที่ดังกล่าว

ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราแก่ กำลังโค่น ผู้เสียชีวิตถูกฝังไม่ลึกมาก เป็นร่องรอยถมใหม่ สวมเสื้อสีฟ้าเข้ม กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ทราบชื่อ นายพงษ์ศักดิ์ อายุ 55 ปี มีอาขีพรับเหมาโค่นต้นยางพารา

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายวรพจน์ อายุ 34 ปี เป็นลูกจ้างของนายพงษ์ศักดิ์ผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้

เบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ คนทั้งสองได้มาโค่นยางพาราในสวนดังกล่าว ก่อนจะมีเรื่องขัดแย้งกัน จนเป็นเหตุให้นายวรพจน์ ก่อเหตุสังหารผู้เสียชีวิตในที่สุด

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนเพิ่มเติม ที่ สภ.บ้านนาเดิม 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ตายได้รับจ้างโค่นไม้ยางพาราในสวนดังกล่าว มา4 วันแล้ว และวันนี้เป็นวันที่5 ใกล้จะเสร็จ โค่นไม้ยางท้ายสวน โดยมีผู้ก่อเหตุและนายบอย เป็นลูกจ้างช่วยกันโค้นไม้ 2 คน ในขณะที่ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตกำลังตัดต้นไม้กันอยู่ ผู้เสียชีวิตได้ก้มลงไปเพื่อจะใช้มีดพร้าฟันกิ่งไม้ ผู้ก่อเหตุจึงได้ใช้เลื่อยยนต์ตัดเข้าไปที่ต้นคอ จนผู้เสียชีวิตล้มฟุบลง และใช้มีดฟันเข้าที่คออีกครั้ง

ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินไปยืมจอบที่บ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันเพียง 20 เมตรมาขุดหลุมและฝังร่างของผู้เสียชีวิต

ด้านนายชัย เป็นเจ้าของบ้านที่ผู้ก่อเหตุไปยืมจอบ เล่าให้ฟังว่า ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน ตนได้ยินเสียงเลื่อยยนต์ดัง ก็คิดว่าคนงานตัดไม้กันตามปกติ พอเสียงเลื่อยยนต์เงียบลง ก็ได้ยินเสียงผู้ก่อเหตุพูดว่า ‘ขาดแล้ว’ หลังจากนั้นประมาณ4-5นาที ลูกจ้างตัดไม้อีกคน (นายบอย) ได้วิ่งมาบอกตนว่าให้โทรแจ้งตำรวจให้หน่อย แต่ผู้ก่อเหตุได้เดินตามหลังมาติดๆ และได้ขอยืมจอบของตน ก่อนจะเดินกลับไปขุดหลุมฝังร่างของผู้เสียชีวิต โดยใช้เวลาขุดอยู่ประมาณ20นาที จนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เก็บเลื่อยยนต์ขึ้นรถ เพื่อที่จะขับหลบหนีไป แต่ถูกจับกุมตัวได้ก่อน

นางจารีย์ อายุ49ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายพจน์ มาทำงานอยู่กับสามีตนได้ประมาณ1ปี ปกติแล้วนายพจน์เป็นคนร่าเริง แต่บางครั้งก็มักจะมีพฤติกรรมคล้ายคนเมายา ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นว่ามีปัญหาหรือทะเลาะกับสามีตน ส่วนปมก่อเหตุนั้นตน คาดว่าน่าจะเพราะนายพจน์เมายา จึงลงมือก่อเหตุ ซึ่งตนก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปหน้าที่ของกฎหมายลงโทษนายพจน์เพราะต่อให้แลกด้วยชีวิตนายพจน์สามีตนก็คงไม่กลับมา ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถทำใจได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น