เพื่อนสนิทแฟน "ปราบต์ปฎล" พร้อมทนาย ฮ. ยืนยันไม่ได้ตบทรัพย์ 10 ล้านบาท ให้ช่วยวิ่งเต้นคดีฟอเร็กซ์-3ดี ขณะที่เลขานุการฯยุติธรรม ยืนยันคดีอยู่ในชั้นศาลแล้ว ไม่สามารถวิ่งเต้นในชั้นสอบสวนได้

นางสาวการ์ตูน พร้อมด้วย ทนาย ฮ. บุคคลที่ถูกนายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือ ปราปต์ นักแสดง อ้างว่าอยู่ในกลุ่มขบวนการตบทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือคดีแฟนสาว ที่ถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน และฟอกเงิน คดีฟอเร็กซ์-3ดี ไปก่อนหน้านี้ และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ยังไม่ได้รับการประกันตัว

โดยทั้งคู่ได้นำหลักฐานการพูดคุยกับนายปราปต์ ในช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา

นางสาวการ์ตูน เปิดเผยว่า เริ่มต้นรู้จักกับนายปราปต์ คือเมื่อเดือนมิถุนายน โดยได้ทักไปหาแฟนสาวที่เป็นเพื่อนสนิทกัน เพื่อขอให้นายปราปต์โปรโมตนาฬิกายี่ห้อหนึ่งที่ขายอยู่ เนื่องจากเห็นว่านายปราปต์ ใส่ยี่ห้อนี้เป็นประจำ และนายปราปต์ยังมาขอนาฬิกาฟรีด้วย แต่ทางนางสาวการ์ตูน ไม่สามารถให้ได้เนื่องจากไม่ใช่เจ้าของโดยตรง แต่แฟนของนายปราปต์ก็ได้ตกลงซื้อไป 1 เรือน เพื่อช่วยสนับสนุนเพื่อนของตัวเอง

จากนั้นได้ทราบข่าวว่าแฟนสาวของนายปราปต์ ถูกดำเนินคดี จึงรู้สึกตกใจและเป็นห่วงเพื่อน โดยได้นัดหมายให้นายปราปต์ มาคุยกับทนาย ฮ. และตัวเองอยู่ด้วย เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2565 ซึ่งรู้จักกัน เพราะเป็นคนที่ร่วมทำคดีนี้ โดยนัดรับประทานอาหารกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง และเป็นคนที่ออกใช้จ่ายค่าอาหารให้ เนื่องจากนายปราปต์บอกว่าไม่มีเงิน

"โดยยืนยันว่าการพูดคุยครั้งนั้น เป็นเพียงการสอบถามเรื่องเงื่อนไขการประกันตัวเท่านั้น โดยทนาย ฮ. ก็ได้แนะนำเพียงว่า คดีนี้มีความเสียหายจำนวนมาก ทำให้วงเงินเงื่อนไขการประกันตัว ก็ต้องใช้จำนวนมากเป็นหลักล้าน โดยที่ไม่ได้บอกจำนวนเงิน 10 ล้านบาท ตามที่นายปราปต์กล่าวหา รวมทั้งไม่ได้มีการกล่าวอ้างถึงการวิ่งเต้นคดี หรือ พูดถึงผู้ใหญ่ในกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือ หรือวิ่งเต้นคดี และไม่มีการตบทรัพย์ใดๆทั้งสิ้น ซึ่งคดีนี้อยู่ในชั้นศาลแล้ว จึงไม่สามารถวิ่งเต้นคดีในชั้นสอบสวนได้" นางสาวการ์ตูน ระบุ

ส่วนที่นายปราปต์ อ้างว่ามีการพูดถึง "ความยุติธรรม ต้องมีค่าใช้จ่าย" เรื่องนี้ ทนาย ฮ. ยืนยันว่าไม่ได้พูดถึง แต่หากตามหลักการว่าจ้างคดีความแล้ว ก็จำเป็นต้องมีค่าจ้างทนายความวิชาชีพ และค่าดำเนินการในชั้นศาลอยู่แล้ว แต่จะจำนวนเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างคู่ความ โดยหลังจากนี้ทั้งสองคนก็จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายปราปต์ ในข้อหา หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากถือว่าได้รับความเสียหายทั้งเรื่องชื่อเสียง และผลกระทบความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ

ขณะที่ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันเช่นกันว่า ไม่ได้รู้จักกับนายปราปต์เป็นการส่วนตัว แต่ยอมรับเคยไปทานอาหารด้วยกัน แต่ไม่ได้พูดคุยเรื่องคดี ส่วนทนาย ฮ. ยอมรับว่าก็เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในการร่วมกันทำงานในกระทรวง ที่มีหลายคดีต้องการรับความช่วยเหลือจากผู้มีความรู้ความสามารถ ซึ่งทนาย ฮ. ก็ไม่ได้รับค่าตอบแทนจากกระทรวง เป็นการช่วยเหลือด้วยจิตอาสา

"พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ไม่สามารถวิ่งเต้นในชั้นสอบสวนได้แล้ว เรื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาล แต่หากนายปราปต์มีพยานหลักฐานที่เห็นว่ากลุ่มคนที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องตบทรัพย์ก็สามารถดำเนินคดีได้

ซึ่งที่ผ่านมา ในช่วงที่นัดรับประทานอาหารกัน นายปราปต์ ยังไม่ถูกดำเนินคดี แต่หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือน ก็ถูกแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินนั้น ทำให้นายปราปต์ ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นสาเหตุที่ไม่ยอมจ่ายเงินหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า ในช่วงดังกล่าวไม่มีการเรียกรับเงิน เพราะนายปราปต์ ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา และถือว่าไม่เกี่ยวข้องทางคดี"ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ระบุ

สำหรับคดีฟอเร็กซ์-3ดี ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าวยืนยันว่า ดีเอสไอได้สืบสวนอย่างตรงไปตรงมาและจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน และกำลังดำเนินการยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้กับผู้เสียหายกว่า 12,000 คน และยึดมาได้พอสมควรแล้ว ซึ่งการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหลักที่ร่วมกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ในข้อหาฉ้อโกงไปแล้ว ส่วนการขยายผลก็จะมีกลุ่มคดีฟอกเงินที่กำลังดำเนินการสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ