สัปเหร่อจะไปเตรียมเมรุเผาศพ พบเถ้ากระดูกปริศนา สงสัยถูกลักลอบนำมาเผาบนเมรุ ตำรวจเก็บหลักฐานไปตรวจพิสูจน์เร่งไขปริศนา

ชาวบ้านโนนหมากแงว หมู่ 7 ต.น้ำคำ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และสัปเหร่อ ช่วยกันไปทำความสะอาดเพื่อเตรียมการที่จะเผาศพคนในชุมชน แต่เมื่อเปิดประตูเมรุพบว่าในเตาเผาศพ มีเถ้าและกระดูกอยู่เป็นจำนวนมาก คาดว่าจะเป็นเถ้าและกระดูกของมนุษย์ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวโทน พร้อมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ร้อยเอ็ด มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องตนตำรวจยังชี้ชัดไม่ได้ว่าเป็นของมนุษย์หรือสัตว์ จึงเก็บหลักฐานไปส่งตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ในความสงสัยของชาวบ้านว่าถ้าเป็นศพคน จะเป็นใคร มาจากไหน และใครนำศพมาลักลอบเผาโดยไม่แจ้งให้ทางวัดและสัปเหร่อทราบหรือนำมาเผาเพื่ออำพรางคดี

นายแว่น สุจริต อายุ 82 ปี สัปเหร่อที่วัดบ้านโนนหมากแงว ซึ่งทำหน้าที่สัปเหร่อมากว่า 50 ปี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 6 ก.พ. 2566 ตนได้ขึ้นไปบนเมรุเพื่อทำความสะอาดและเตรียมจะนำเอาถ่านไปใส่ในเตาเผาเพื่อเผาศพคนในชุมชน พอไปถึงหน้าเตาเผาก็พบสิ่งผิดปกติคือถังพลาสติกที่ตนเก็บไว้ใส่เถ้ากระดูก จำนวน 3 ใน ซึ่งตั้งเอาไว้บนเตาเผา ถูกวางไว้ข้างนอก และในเตาเผาก็พบชิ้นส่วนกระดูกและเถ้าจำนวนหนึ่ง จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่วัด แล้วเก็บเอากระดูกไปเหลือแต่เถ้าเอาไว้และบอกว่าอย่าเพิ่งเอาไปเททิ้งจึงเก็บไว้อยู่ ซึ่งจากประสบการณ์ในอาชีพสัปเหร่อยืนยันว่าเป็นกระดูกคนแน่นอน จากนั้นนายแว่นก็พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูประตูทางเข้าด้านหลังเมรุ ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านนำศพเข้ามาเผาในแต่ละครั้ง ประตูเหล็กดัดก็ถูกล็อคกุญแจอยู่ คาดว่าผู้ที่นำศพมาเผาคงแอบเอาศพเข้ามาทางด้านหลังเมรูอีกด้านหนึ่งซึ่งไม่มีกำแพงกั้น เป็นทุ่งนาและต้นไม้สามารถเดินเข้าออกได้สะดวก และคาดว่านำศพมาเผาในเวลากลางคืน

โดยยืนยันว่า ตนเองได้มาใช้เมรุครั้งสุดท้าย ทำคามสะอาดเรียบร้อยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 6 ก็มาเตรียมสถานที่ หลังจากมีคนแจ้งว่าจะนำศพมาเผา

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.หัวโทน สอบถามข้อมูลจากตำรวจที่ได้รับแจ้งความในวันนั้น ก็ได้รับคำตอบว่า หลังจากรับแจ้งก็ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมพิสูจน์ หลังจากนี้ต้องรอผลจากพิสูจน์ หลักฐาน ที่เก็บกระดูกไปตรวจสอบ และต้องรอผลตรวจเถ้ากระดูกและตรวจรายละเอียดก่อนว่าเป็นกระดูกหรือเถ้ากระดูกของคนหรือไม่อย่างไร จึงยังไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ ถ้าเป็นของคนก็ต้องได้ตรวจดีเอ็นเอต่อไปอีกว่าเป็นใคร ขณะเดียวกัน ช่วงนี้ตำรวจก็พยายามออกไปสืบสวนหาข่าวและในพื้นที่ 4 หมู่บ้าน ก็ไม่มีการมาแจ้งความคนหายแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องนี้มีการนำไปโพสต์ลงในสื่อโซเชียลต่างๆ ก็ทำให้ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก อยากทราบความจริงว่าเป็นกระดูกคนหรือสัตว์กันแน่ ถ้าเป็นคนจะเป็นใครถูกนำมาจากไหน ในหรือนอกพื้นที่เพื่ออำพรางคดีหรือไม่ และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งคลี่คลายโดยเร็ว