เร่งตามหา "น้องต่อ" วัย8 เดือนหายตัวปริศนาขณะพ่อแม่นอนหลับ สอบเข้มแม่น้องต่อหลังตำรวจพบพิรุธเพิ่ม สงสัยกำลังอำพรางอะไรอยู่หรือไม่?

วันที่ 7 ก.พ.66 ความคืบหน้ากรณี "น้องต่อ" เด็กชายวัย 8 เดือนที่หายตัวไปปริศนาภายในบ้าน เหตุเกิดในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลหินมูล อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม

ล่าสุดวันนี้ (7 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นบ้านของน้องต่อ เด็กชาย วัย 8 เดือนที่ยังหายตัวไป โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านปูนชั้นเดียว และด้านหน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายน้ำอัดลมเล็ก ๆ ลักษณะเปิดโล่ง ไม่มีประตูบ้าน มีเพียงผ้าม่านกั้นห้องนอนไว้

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสิทธิโชค แสงสว่าง หรือ "พุด" อายุ 19 ปี พ่อของเด็ก บอกว่า ตอนนี้ตนเองและแฟนเครียดมาก ยังไม่ได้นอนตั้งแต่วันที่ลูกชายหายตัวไป โดยเฉพาะแฟนที่ยังร้องไห้อยู่ตลอดเวลา โดยจากการที่ตำรวจสอบปากคำแฟนไปเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.66) เท่าที่ทราบ แฟนยังคงยืนยันว่า เห็นว่ามีคนมาอุ้มลูกชายไปในช่วงเวลา 07.30 น. เมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 ซึ่งเท่าที่คิดคาดว่าเป็นคนนอกพื้นที่ที่อาจจะเคยมาดูลาดเลาที่บ้านไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้จากกระแสที่คนในพื้นที่และบรรดาญาติสงสัยตัวแฟนสาวนั้น ยืนยันว่า ตนเองไม่สงสัยแฟนสาวเลย เพราะเขารักลูกมาก โดยพื้นที่นี้ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตอนนี้อยากให้เจอลูกชายไว ๆ เรื่องจะได้จบ

ขณะเดียวกันตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางหลวง เดินทางเข้ามารับตัวนางสาวนิ่ม แม่ของน้องต่อ ไปสอบปากคำเพิ่มเติม หลังมีประเด็นที่ตำรวจตั้งข้อสงสัยอยู่ โดยแม่ของน้องต่อ ระบุก่อนจะเดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจเพิ่มเติมว่า คำให้การของแม่ที่ให้ไปเป็นความจริง ตนเองไม่รู้ว่าชายเสื้อเหลืองที่เข้ามาอุ้มลูกชายไปเป็นใคร ซึ่งตอนนั้นที่เห็นตนเองเข้าใจว่าเป็นญาติเข้ามาอุ้มลูกไป จึงไม่ได้ร้องโวยวายขอความช่วยเหลือ กระทั่งมารู้ภายหลังว่าเป็นบุคคลอื่น จึงเชื่อว่าลูกชายถูกชายแปลกหน้าที่อาจเป็นแก๊งลักพาตัวเด็กอุ้มลูกไปอย่างแน่นอน

ส่วนประเด็นที่มีชาวบ้านได้ยินตนเองคุยโทรศัพท์กับชายปริศนาที่เข้าใจว่าเป็นนายกล้า แฟนเก่า ที่คุยกันว่า “อย่าเอาเรื่อง อย่าแจ้งตำรวจ” นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพ่อและแม่ของน้องต่อได้จุดธูป 14 ดอก บริเวณคันกันน้ำห่างจากบ้านราว 50 เมตร โดยบอกเจ้าป่าเจ้าเขาและน้ำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่า “ขอให้เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ค้นหาน้องให้เจอได้โดยเร็ว” พร้อมกันหน้ากู้ภัยยังได้ใช้สุนัข 2 ตัว ดมกลิ่น เพื่อแกะรอยเส้นทางของน้องที่หายตัวไป

ด้านพันตำรวจเอกพัลลภ สุริยะกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เปิดถึงความคืบหน้าในกรณีนี้ โดยพันตำรวจเอกพัลลภ ระบุว่า ตลอดเมื่อวานนี้ (6 ก.พ.66) จนถึงวัน (7 ก.พ.66) ได้ส่งชุดสืบสวนกระจายกำลังปูพรมค้นหาเด็กชาย วัย 8 เดือนในละแวกใกล้เคียงพื้นที่บ้านแล้ว แต่ยังไม่พบร่องรอย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังคงจะเร่งค้นหาให้พบต่อไป

โดยขณะนี้ได้แบ่งชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อตามหาเด็ก ประกอบกับได้ให้พนักงานสอบสวนเรียกพยานที่เกี่ยวข้องทุกรายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ว่ามีใครพบเห็นเด็กชายครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่และที่จุดไหน

ส่วนการสอบปากคำของแม่เด็กตลอดทั้งคืนเมื่อวานนี้ ต้องให้ทีมสหวิชาชีพเข้ามาร่วมสอบปากคำด้วย เนื่องจากตัวแม่เด็กยังไม่พูดไม่จาอะไร ตอบเพียงว่า “ไม่รู้” และร้องไห้อยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันยังต้องเรียกให้อดีตแฟนของแม่เข้ามาสอบปากคำด้วย

ล่าสุดวันนี้ ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บางหลวง ลงพื้นที่ไปเชิญตัว นายวุฒิพัฒน์ (สงวนนามสกุล) หรือ นายกล้า แฟนเก่าของนิ่ม มาที่โรงพักเพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม

ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปสอบปากคำ นายกล้าให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งในเกิดเหตุ ตนเองทำงานรับจ้าง อยู่ที่บ้านในอำเภอบางเลน และไม่ได้ติดต่อกับนิ่มมานาน 4-5ปีแล้ว หลังจากเคยถูกครอบครัวของนิ่ม แจ้งความและฟ้องร้องในคดีพรากผู้เยาว์ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น ครอบครัวของตนเองเสนอจะดูแลเลี้ยงดูนิ่ม ทั้งการกินอยู่และการศึกษา แต่ฝ่ายหญิงไม่รับข้อเสนอ ทางศาลก็เลยให้เลิกรากันไป และหลังจากนั้นก็ไม่ไก้ติดต่อกันอีกเลย และไม่รู้มาก่อนว่าฝ่ายหญิงมีครอบครัวแล้ว รวมถึงไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงย้ายมาอยู่ที่ไหน กระทั่งล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาที่บ้าน ตอนช่วงสาย ก็ตกใจ จึงรีบเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ และอยากถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทำไมถึงมีชื่อตนเองเข้ามาเกี่ยวข้อง

ขณะที่ทีมข่าวช่อง8 ลงพื้นที่ไปเจอกล้องวงจรปิด ในเส้นทาง ถนนสายหลักสาย 3351 ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ที่คาดว่า คนร้ายน่าจะอุ้มพาน้องต่อหลบหนี ช่วงเวลา 7:57 น. ซึ่งชาวบ้านระบุว่า มีรถจักรยานยนต์ของชายหญิง มาจอดด้อม ๆ มอง ๆ ก่อนที่จะขี่รถไป โดยมีเด็กน้อยนั่งอยู่ด้านหน้ารถด้วย จึงสงสัยว่าจะใช่น้องต่อหรือไม่

แต่เมื่อนำคลิป ไปตรวจสอบ พบว่า เด็กในคลิปน่าจะเป็นเด็กผู้หญิง และเด็กน่าจะอายุมากกว่าน้องต่อ เพราะดูจากลักษณะแล้วน้องสามารถนั่งรถเองได้ จึงคาดว่าน่าจะไม่ใช่น้องต่อ ตามที่ชาวบ้านให้ข้อมูล

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรับรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บางหลวง สงสัยห้องส้วมภายในบ้านมีการโบกปูนขึ้นมาใหม่ จึงเข้าทำการตรวจสอบทันที

จากการที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังห้องน้ำของบ้าน ซึ่งอยู่บริเวณระหว่างบ้านปูนของนายพุด และบ้านไม้ บ้านญาตินายพุด พบว่าบริเวณโถส้วมถูกโบกปูนใหม่จริง แต่ไม่พบวัตถุอื่นใดบ่งชี้ว่าจะมีการอำพรางในห้องน้ำ

ซึ่งล่าสุดชุดสืบสวน สภ.บางหลวง ทำการสอบปากคำเรื่องนี้นายพุด และพี่สาวนายพุด ยืนยันตรงกันว่า ได้มีการโบกปูนใหม่เมื่อ 2 สองสัปดาห์ก่อนเด็กหาย โดยรอบโถส้วมจริง เนื่องจากโถส้วมมีกลิ่นแก๊สไข่เน่าลอยขึ้นมา