ชูวิทย์ หวังคดีตู้ห่าว ประชาชนจะมีชัยชนะ ลั่นสัญญาประชาคม รางวัล 5% จากยึดทรัพย์ 8พันล้าน ทำบุญรพ.ทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 14มกราคม 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของสถานบันเทิงและอดีตนักการเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า

“ยึดทรัพย์ “ตู้ห่าว” หมื่นล้าน การทลาย “จินหลิง” ที่มีนายตู้ห่าวเป็นผู้ต้องหารายสำคัญ ยึดอายัดทรัพย์สินไปแล้วประมาณ 5,345 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สินให้ยึดต่ออีก 3,000 ล้านบาท รวมประมาณ 8,345 ล้านบาท

หากเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงไว้ว่า “ผู้ชี้เบาะแสอย่างนายชูวิทย์ จะได้เงินรางวัลนำจับ 5 เปอร์เซ็นต์ จากยอดทั้งหมด”

ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ชี้แจงแถลงไขให้ประชาชนทราบว่า หากผมได้รับรางวัล 5 เปอร์เซ็นต์จริง จากยอด 8,345 ล้านบาท จะตกอยู่ประมาณ 417 ล้านบาท

ขอยืนยันไว้เป็น “สัญญาประชาคม” ตรงนี้ว่า “จะขอนำเงินจำนวนนี้ทั้งหมด บริจาคเป็นกุศลผลบุญให้แก่คนไทยทั่วไป ตามโรงพยาบาลทั่วประเทศไทย โดยไม่ขอนำเงินใส่กระเป๋าใช้ส่วนตัวแม้แต่บาทเดียว”

ผมมีมากพอแล้ว ลูกหลานก็มีให้หมดแล้ว ผมเคยทำอะไรไว้ ตอนนี้เป็น “องคุลีมาล” กลับใจ ขอทำงานคืนให้สังคม ตอบแทนโดยไม่หวังผลใดๆ ตามที่เคยบอกไว้กับสังคมสาธารณชน สิ่งที่ทำไป ต้องการให้ประชาชนได้เรียนรู้ เข้าใจถึงการต่อสู้ครั้งนี้ เป็นตัวอย่างให้ได้จดจำว่า ไม่ใช่แค่แฉเปิดโปงเท่านั้น แต่การจะทำให้ภาครัฐหันมาเอาใจใส่แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ต้องใช้แรงกดดันของสังคม

ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ แต่ผมถือว่าหน้าที่นี้เป็นของพลเมืองทุกคนที่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะยาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ และกระบวนการเกี่ยวพันไปถึงแหล่งผลิตที่อยู่นอกประเทศไทย เราไม่มีทางหยุดได้ ยกเว้นจะจัดการที่ “ต้นตอ” นายตู้ห่าว และเครือข่าย เป็นคนต่างชาติที่อาศัยผืนแผ่นดินไทยทำมาหากิน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องจัดการตามกฎหมายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ขั้นตอนสอบสวนของตำรวจและอัยการจบสิ้นลง จากนี้อัยการสูงสุดจะเป็นผู้ลงนามสั่งฟ้องตามกระบวนการศาลยุติธรรมต่อไป หวังว่าประชาชนจะประสบชัยชนะร่วมกัน อย่างน้อยมันเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า “คนทำผิดร้อยครั้ง แม้หลุดรอดไปได้ทุกครั้ง แต่เมื่อพลาดเพียงครั้งเดียว เราสามารถล้มกระดานได้ทั้งหมด”