เป็นที่ฮือฮา "วัดดังในจังหวัดฉะเชิงเทรา" ประกาศเปิดรับสมัครลูกศิษย์วัดสวัสดิการกินฟรี อยู่ฟรี มีเงินเดือน ขอแค่คุณสมบัติตรงตามกำหนด คนสนใจแห่โทรสอบถามเพียบ

30 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าประเด็นที่มีการแชร์เป็นวงกว้างในโลกออนไลน์ กรณีเจ้าอาวาสวัดอาคมสิทธาภรณ์ ตำบลโยธะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้ประกาศเปิดรับสมัครลูกศิษย์วัด โดยที่ระบุคุณสมบัติผู้สมัครต้องเป็นคนขยัน มีความรับผิดชอบ อัธยาศัยดี ขับรถได้ รักษาดูแลรถ มีความรู้เรื่องรถเบื้องต้น มีมารยาท ความประพฤติหากมีความสามารถเรื่องการถ่ายรูป หรือ คอมพิวเตอร์ จะพิจารณาเป็นพิเศษ สวัสดิการ โดย มีห้องพักฟรี มีอาหารฟรี รับเงินพิเศษจากการออกงาน เงินเดือน 8xxx - 1xxxx ตามความขยันและความสามารถ จนเกิดเป็นประเด็นที่มีการวิภาควิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา

 

พระปลัดคณาธิป สนฺตจิตฺโต ออกมาเผยถึงประเด็นนี้ว่าวัดนี้เปรียบเสมือนวัดร้างทางเจ้าอาวาสวัดวีระโชติจึงได้ให้พระปลัดคณาธิป สนฺตจิตฺโต มาบูรณะใหม่จึงทำให้งานของวัดนั้นเพิ่มมากขึ้นบวกกับทางวัดมีพระแค่ 2 รูปและทางวัดได้ประสานไปยังวัดโสธรวรารามวรวิหารเพื่อขอสามเณรที่กำลังศึกษาอยู่นั้นให้มาช่วยงานจึงต้องเปิดรับลูกศิษย์เพื่อมาช่วย

 

พระปลัดคณาธิป กล่าวอีกว่าคุณสมบัติเรื่องการขับรถนั้นก็เพื่อที่จะคอยรับส่งสามเณรไปเรียนส่วนเรื่องการถ่ายรูปเป็นเพราะว่าวัดสมัยนี้ก็ต้องพึ่งสิ่งเหล่านี้ในการประชาสัมพันธ์ให้ญาติโยมได้รู้ ส่วนเรื่องปัจจัยที่ได้รับท่านอยากให้คนที่ไม่มีงานได้มีโอกาสเข้ามาทำงานตรงนี้เพื่อให้มีรายได้เพื่อเลี้ยงตัวเองส่วนหนึ่งของปัจจัยที่ได้นั้นเป็นของทาง พระปลัดคณาธิป ส่วนนึงที่ได้รับจากกิจนิมนต์ หลังจากที่ได้เปิดรับสมัครไปนั้นก็มีคนที่สนใจได้โทรมาสอบถามรายละเอียดเหมือนกัน

 

ด้านนางวนิดา ชลาลักษณ์  วัย 63 ปี  คุณครูเกษียณอายุรับราชการ  เผยว่าตนเองก็มาช่วยงานที่วัดแห่งนี้ โดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ  เพราะสงสารท่านเจ้าอาวาส เนื่องจากเริ่มแรกเดิมทีวัดแห่งนี้ แทบจะเป็นวัดร้าง แต่ 2 ปีผ่านมา หลังจากที่เจ้าอาวาสท่านนี้มาอู่ที่วัด ก็ได้พัฒนาวัดจนเป็นวัดที่สวยงาม และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา  โดยยอมรับว่าเจ้าอาวาสเหนื่อยมากกว่าวัดจะฟื้นฟูกลับมาได้ขนาดนี้  การที่ประกาศรับสมัครลูกศิษย์ก็เพราะอยากให้ลูกศิษย์มาช่วยแบ่งเบาภาระภายในวัด เนื่องจากวัดนี้มีพระแค่ 2 รูป ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง  ส่วนเงินที่นำมาเป็นค่าจ้าง ก็เป็นเงินของท่านเจ้าอาวาสเองที่ได้รับจากกิจนิมนต์ ไม่เกี่ยวกับเงินวัด