สั่งปิดมูลนิธิคุ้มครองเด็กบ้าน "ครูยุ่น" ดำเนินการผิดหลักเกณฑ์ ซ้ำยังทำร้ายร่างกาย ด้าน"บิ๊กโจ๊ก" เร่งตรวจสอบ หากเข้าข่ายค้ามนุษย์เเจ้งข้อหาเพิ่ม

ภายหลังการกล่าวหา "นายมนตรี สินทวิชัย" หรือ "ครูยุ่น" เลขามูลนิธิคุ้มครองเด็ก ทำร้ายร่างกาย และใช้แรงงานเด็กใน สถานสงเคราะห์ และถูกอัดคลิปออกมาเผยแพร่ ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ล่าสุดนายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ลงนามในคำสั่งจังหวัดสมุทรสงคราม เพิกถอนในอนุญาตให้ตั้งสถานสงเคราะห์เด็กเอกชน บ้านคุ้มครองเด็ก 3 (บ้านริมน้ำ) ซึ่งรับเด็กอายุเกิน 17 ปี จำนวน 3 ราย และเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี 20 ราย โดยมีเด็กอายุต่ำสุด 1 ปี รวมถึงมีเด็กพิการอีก 1 ราย เป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขที่ระบุไว้ในใบอนุญาตตั้งสถานสงเคราะห์ โดยให้เพิกถอนในอนุญาตตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

โดยประกาศคำสั่ง ให้มีผลตั้งแต่วันนี้ 10 พ.ย. 65 เป็นต้นไป เเละในคำสั่ง ยังระบุว่า หากมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ และ ประสงค์จะอุทธรณ์หรือโต้แย้งคำสั่งนี้ให้ยื่นอุทธรณ์ หรือโต้แย้งคำสั่งนี้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่รับทราบคำสั่งนี้โดยทำเป็นหนังสือระบุข้อโต้แย้ง และข้อเท็จจริงส่งไปให้ทางจังหวัด

ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง การดำเนินคดีกับครูยุ่น หลังจากที่มีการเข้าตรวจสอบ ตามคลิปที่ปรากฎซึ่งครูยุ่นตีเด็กทำโทษเด็กในมูลนิธิฯเเละใช้ถ้อยคำด่าทอที่รุนเเรง ซึ่งครูยุ่นถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายเด็ก และ ร่วมกันใช้แรงงานเด็ก เเละ ได้รับการประกันตัวออกมา ส่วนจะเข้าข่ายคดีค้ามนุษย์หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาหลักฐานที่มีอยู่ หากพบว่าเข้าข่ายก็จะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลัง

ส่วนเด็กในสถานสงเคราะห์ ขณะนี้มีอยู่ในการดูแล 12 คน ซึ่งจะมีการใช้มาตรการทางปกครองของกระทรวงมหาดไทย ในการรับเด็กออกมาดูแลต่อไป พร้อมยืนยันว่าสถานสงเคราะห์ตีเด็กไม่ได้ จึงต้องทำให้เห็น หากสถานสงเคราะห์ใดทำผิดเงื่อนไขก็ต้องสั่งปิด