สามีของครูพรที่เสียชีวิตพร้อม "น้องซีวิค" ลูกในครรภ์ 8 เดือน จากโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภู โพสต์ระบายความในใจ หวังทวงสิทธิ์ให้กับลูก ที่กฎหมายไม่ให้ความคุ้มครอง

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายว่า ภายหลังจากโศกนาฏกรรมที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา นายเสกสรรค์ ครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอนากลาง ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.สุภาพร หรือครูพร อายุ 26 ปี ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ที่เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์ 8 เดือน โดยมีกำหนดคลอดวันที่ 23 พ.ย. ภายหลังครอบครัวผ่าทารกในครรภ์ออก พร้อมตั้งชื่อว่า "ซีวิค" ตามชื่อรถคันแรกที่คู่ชีวิตได้มาเป็นของครอบครัว

โดยนายเสกสรรค์ ได้โพสต์ระบายความรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม กรณีเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตของ "น้องซีวิค" ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า "ลูกผมนะ ถ้าพูดตามกฎหมายลูกผมไม่ได้รับการเยียวยาอยู่แล้ว เพราะลูกผมมาสิ้นใจตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ถ้ารัฐบาลมาถามหาเลขบัตรประชาชน ใบเกิดลูกผมไม่มี เพราะลูกผมสิ้นใจก่อน จะให้เขาเอาเลขบัตรประชาชนกับใบเกิดมาแต่ไหน ขนาดผมพาภรรยาไปผ่าคลอดทั้งๆ ที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว
นี่หรอคือสิ่งที่รัฐเอาแต่กฎหมายมาอ้างในการเยียวยาลูกชาย เหตุผลเพียงเพราะลูกผมสิ้นใจในท้อง ผมเคารพกฎหมายบ้านเมืองเสมอ แต่พวกคุณเข้าใจไหมว่ามนุษยธรรมมันควรมีทุกคน สิ่งที่ผมโพสต์วันนี้และในส่วนของราชการละครับ คุณเอาแต่กฎหมายว่าลูกผมไม่มีนั่นนี่ สิ้นใจก่อนไม่นับลูกผมในการเสียชีวิตครั้งนี้ ผู้ใหญ่ทุกภาคส่วนรู้ไหมว่าผมต้องเจ็บช้ำแค่ไหน ที่ผู้ใหญ่เอาแต่หลักเกณฑ์มาพูด อันนั้นอันนี้ไม่ได้ แต่ผู้ใหญ่เข้าใจไหมว่าผมสูญเสียทั้งเมียและลูก ผมรู้ว่าทุกคนก็สูญเสียไม่แพ้กัน ผมเป็นพ่อ ผมต้องทวงความยุติธรรมให้ลูกผม แล้วเอาแต่กฎหมายมาอ้าง สงสารลูกผมบ้างไหม มนุษยธรรมมีให้ลูกผมบ้างไหม
ผมว่าจะไม่โพสต์แล้ว ผมอดทนมานานแล้ว ถ้าคิดว่าผมเห็นแก่เงิน คุณก็เอาชีวิตลูกเมียผมคืนมา ต่อให้ผมมีหนี้มากแค่ไหนผมก็มีความสุข ผมได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน นี่หรอคือสิ่งที่ผู้ใหญ่บ้านเมืองเห็นชีวิตเด็กน้อย 8 เดือนมีค่าแค่นี้ ทั้งๆ ที่เขาจะต้องลืมตามาดูโลกแล้ว ผมอยากถึงรัฐบาลพวกคุณก็มีลูกมีหลาน พวกคุณก็น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี”

หลังข้อความดังกล่าวถูกโพสต์ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับนายเสกสรรค์ โดยเปิดเผยว่า สาเหตุที่โพสต์ข้อความดังกล่าว เพราะอยากจะใช้สิทธิ์ของความเป็นพ่อทวงสิทธิ์ให้กับลูกของตัวเอง ส่วนในเรื่องของกฎหมายบ้านเมืองนั้น เคารพกฎหมายอยู่ ตามหลักกฎหมายลูกผมไม่มีสภาพบุคคล หากมองว่าวันที่ลูกผมไปผ่าคลอดนั้น ลูกผมเป็นก้อนเลือดเหรอ ลูกผมมีอวัยวะครบทุกอย่าง 32 ประการ พร้อมที่จะลืมตามาดูโลกแล้ว ผมก็ต้องทำหน้าที่ของพ่อทุกอย่างทวงสิทธิ์ ให้ลูกผมได้รับความเป็นธรรม ผมผิดตรงไหน ผมอยากให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือผมด้วย ถึงการเบิกเงินหลวงมามันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ไม่มีช่องทางที่จะเยียวยาผมได้เลยเหรอครับ การเยียวยาจิตใจเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าผู้ใหญ่ไม่มีมนุษยธรรมประเทศจะอยู่อย่างไร ผมก็ขอฝากไว้ และอยากให้มีกฎหมายคุ้มครองเด็กตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ด้วย เพราะว่าเราไม่รู้ว่าวันไหนจะเกิดเหตุ จึงอยากให้ เรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานในการที่จะหาวิธีการช่วยเหลือด้วยหลักมนุษยธรรม

นายเสกสรรค์ ยังกล่าวอีกว่า การช่วยเหลือที่มันขัดต่อกฎหมายแล้ว ไม่มีวิธีอื่นที่จะดูแลลูกผมเหรอ อยากให้มองในเรื่องของหลักมนุษยธรรม มองในเรื่องคุณธรรม ที่ลูกผมจะได้รับบ้าง ถามหาทำไมเลขบัตรประชาชน ใบเกิดของลูกผม ถามแบบนี้ก็กินใจผมมากแล้ว ถามแบบไม่ให้เกียรติผู้ตาย ส่วนเรื่องของการเป็นหนี้สินเท่าไรผมไม่ได้คิด เพียงแต่ว่าหากผมยังคงมีภรรยาเคียงข้าง มีลูกอยู่พร้อมหน้า ชีวิตครอบครัวผมก็ยังจะมีกำลังใจในการต่อสู้ อยากให้มองซีวิคมีตัวตนหน่อย นับเป็น 1 ชีวิตได้ไหม

สำหรับเงินที่ได้รับการช่วยเหลือที่ผ่านมานั้น นายเสกสรรค์ บอกว่า ในส่วนของลูก จากทางภาคเอกชน คือ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอุดรธานี 100,000 บาท มอบไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 จากทั้งคณะสงฆ์และภาคเอกชน รวม ได้รับมา 173,111 บาท ส่วนในเรื่องสภาพจิตใจตอนนี้ ผมได้อโหสิกรรมไปให้กับผู้ก่อเหตุแล้ว จะได้ไม่จองเวรจองกรรมกัน

นอกจากนั้น ยังพบว่า โรงเรียนเอกชนในพื้นที่ก็ยังได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังเหตุ ด้วยการติดป้ายไวนิลข้อความเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ขอความร่วมมือผู้ปกครองนักเรียนและบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อ งดเข้ามาในบริเวณโรงเรียน โดยสามารถติดต่อธุระและรับส่งนักเรียนได้ที่บริเวณประตูโรงเรียนเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการหนึ่งในการเฝ้าระวังเหตุร้าย หลังจากเกิดเหตุสะเทือนขวัญมาแล้ว