ครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก เข้าพบตำรวจตามหมายเรียก ปฏิเสธข้อหา ทำร้ายร่างกาย ใช้แรงงานเด็ก

ความคืบหน้ากรณี มูลนิธิคุ้มครองเด็กชื่อดังใน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการทำร้ายและใช้แรงงานเด็กอย่างไม่เป็นธรรม จนทำให้พัฒนาสังคมเข้ามาดำเนินการ รับเด็กไปดูเเล เเละ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อถอดถอนใบอนุญาตการก่อตั้งมูลนิธิ

ล่าสุด ครูยุ่น หรือ นายมนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิ พร้อมด้วย นายแก้วสรร อติโพธิ ประธานมูลนิธิ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำและรับทราบตามหมายเรียกใน 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายเด็ก และใช้แรงงานเด็ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครูยุ่น มีท่าทีไม่ได้วิตกกังวลอะไร ยังมีสีหน้ายิ้มเเย้ม ครูยุ่น กล่าวว่า ไม่มีอะไร ทุกคนทำตามหน้าที่

ทั้งนี้ ครูยุ่น กล่าวสั้นๆ ภายหลังจากเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งการมาพบตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวนเท่านั้น

ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่า เวลา 16.00 น. วันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. มีกำหนดการจะลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามเพี่อติดตามความคืบหน้าและเร่งรัดคดีนี้ด้วย

ด้าน นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามกล่าวว่าทางจังหวัดมอบให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสงครามและทีมสหวิชาชีพสอบถามเด็กที่มีกรณีร้องเรียนว่าถูกทำร้าย ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการโดยนำตัวเด็กทั้ง 8 คน ออกจากมูลนิธิไปอยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงครามคาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ สำหรับเด็กที่เหลืออีก 47 คน ล่าสุดเมื่อเย็นวานนี้ได้มีการนำตัวเด็กออกมาได้อีก 23 คนไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสงคราม จึงเหลือเด็กอีก 24 คนที่สมัครใจอยู่ในมูลนิธิต่อเป็นเด็กเล็ก 14 คน และเด็กโต 10 คน อายุน้อยที่สุด 2 ขวบ และอายุมากที่สุด 16 ปี ซึ่งแต่เดิมมูลนิธิมีเด็กในความดูแลทั้งหมด 55 คน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสงครามและทีมสหวิชาชีพ ตำรวจรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสอบถามเด็กและผู้เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานเสนอจังหวัดพิจารณา หากพบว่ามีการกระทำความผิดจริง เช่นกระทำทารุณกรรมเด็ก ใช้แรงงานเด็กตามที่มีผู้ร้องเรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดก็มีอำนาจที่จะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตมูลนิธิดังกล่าวได้