ชาวบ้านน้ำน้อยเดือดร้อน วัวติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าล้มตายไปแล้ว 8-9 ตัวมูลค่านับแสนบาท และยังคุมไม่อยู่ มีวัวติดเชื้อและเริ่มออกอาการบางตัวหนักถึงขั้นทรุดดิ้นกับพื้นไม่สามารถช่วยได้ ด้านปศุสัตว์อำเภอหาดใหญ่เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือและควบคุมการระบาดพร้อมประกาศเป็นพื้นที่สีแดง คาดเกิดจากสุนัขพิตบูลที่หลุดมาและเป็นโรคพิษสุนัขบ้ามาไล่กัดสุนัขและวัวของชาวบ้าน

วันนี้(31ต.ค.65)ที่จ.สงขลา ขณะนี้ชาวบ้านที่เป็นเกษตรเลี้ยงวัวในพื้นที่ 3 หมู่บ้านของ ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งหมู่1 หมู่2 และหมู่3 ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากวัวติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าและล้มตายไปแล้ว 8-9 ตัว มูลค่านับแสนบาท

 

และเกรงว่าเชื้อพิษสุนัขบ้าอาจจะลุกลามไปติดวัวของชาวบ้านเพิ่มขึ้น พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูวัวที่ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าและอาการทรุดหนักบางตัวถึงกับนอนดิ้นกับพื้นซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือได้และน่าจะไม่รอด

ขณะเดียวกันในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอหาดใหญ่ได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจข้อมูลทั้งจำนวนเกษตรเจ้าของวัวและจำนวนวัวที่เลี้ยงไว้ เพื่อเร่งจัดสรรวัคซีนมาฉีดป้องกันไม่ให้วัวตายเพิ่มขึ้น พร้อมกับประกาศให้พื้นที่ทั้ง3 หมู่บ้านของ ต.น้ำน้อยเป็นพื้นที่สีแดงห้ามเคลื่อนย้ายวัวหรือซื้อขายวัวในช่วงนี้จนกว่าจะสามารถควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าได้

 

จากการสอบถาม นายจิรศักดิ์ อายุ 50 ปี หนึ่งในเกษตรกรที่เลี้ยงวัวในพื้นที่หมู่2 ต.น้ำน้อย ซึ่งวัวติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ไปแล้ว1ตัวและเริ่มมีอาการน้ำลายย้อยอีก1 ตัว บอกว่า ตอนนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าวัวติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าได้อย่างไร อาจเป็นไปได้ว่าถูกสุนัขที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้ากัดหรือรับเชื้อจากน้ำลาย เพราะก่อนหน้านี้มีสุนัขพิตบูลตัวหนึ่งหลุดมาและไล่กัดสุนัขและวัวในหมู่บ้าน และเริ่มสังเกตุเห็นว่าวัวเริ่มมีอาการซึม น้ำลายไหลตั้งแต่วันที่ 25ตุลาคมที่ผ่านมาและวัวเริ่มล้มตายอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ 8-9 ตัวแล้วมูลค่านับแสนบาท

 

จึงต้องการให้ทางปศุสัตว์เร่งหาวัคซีนมาฉีดให้กับวัวชาวบ้านที่เลี้ยงไว้โดยเฉพาะในพื้นที่พรุน้ำน้อยเพื่อยับยั้งการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าไม่ให้ขยายวงกว้างและทำให้วัวล้มตายไปมากกว่านี้