"สมศักดิ์" ยืนยันไม่มีพ่อค้ายาในเรือนจำ เพราะกฎหมายแรง เผยมีคนโทรแจ้งเบาะแสยาเสพติดเพียง 1.6 หมื่นสาย คาดกังวลเรื่องความปลอดภัย พร้อมเริ่มใช้กลไกปกปิดผู้แจ้งในอีก 2-3 เดือน

วันที่ 12 ต.ค. 65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน กรณีมีกระแสข่าวว่ามีผู้ค้ายารายใหญ่อยู่ในเรือนจำ ว่า ยังไม่เห็นมีใครแจ้งให้ทราบสักคน ตนเองอยากทราบจริง ๆ เพราะวันนี้ได้ติดตามและดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ยืนยันว่าเรื่องผู้ค้ายาเสพติดอยู่ในเรือนจำนั้นเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากผู้คุมต่าง ๆ ในเรือนจำมีสิทธิ์ได้รางวัลการนำจับ มีเรื่องของการยึดทรัพย์สิน อีกทั้งกฎหมายยึดสินทรัพย์สามารถย้อนหลังได้เป็น 10 ปี ใครยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือมีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะถูกตรวจสอบอย่างรุนแรง ในส่วนนี้ถ้าผู้ค้ายาเสพติดยังอยู่ได้ เชื่อมั่นว่ามันผิดแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ เพราะกฎหมายขับเคลื่อนเต็มที่

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่ากรณีที่มีการ ระบุว่า ยาเสพติดมีมากมายในทุกหมู่บ้านนั้น ในข้อเท็จจริงประเทศไทยมี กว่า 8 หมื่นหมู่บ้าน แต่มีคนแจ้งผ่านเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 1386 เพียง 1.6 หมื่นสายเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก อาจจะเกิดจากหมู่บ้านดังกล่าวไม่ได้เดือดร้อน หรือเดือดร้อนแต่ไม่กล้าแจ้งเบาะแส เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย ทั้งนี้ได้สร้างกลไกที่จะปกปิดผู้ให้เบาะแสที่จะนำมาใช้ได้ในระยะเวลา 2-3 เดือน

ส่วนเรื่องการยึดและอายัดทรัพย์สินนั้น เมื่อยึดและอายัดทรัพย์สินได้จะส่งเข้ากองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเสนอแนะว่าเงินที่ได้นี้จะแยกไปใช้ในการฟื้นฟูที่มีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดูแลได้หรือไม่ ส่วนผู้ติดยาเสพติดที่เข้าขั้นโรคจิตนั้น มีการนำเสนอให้ใช้กำไลอีเอ็มเพื่อจำกัดบริเวณ

และตามปกติแล้วหากศาลสั่งให้บำบัดจะต้องส่งเข้าไปในสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ซึ่งจะเพิ่มเรื่องการใช้กำไลอีเอ็มเข้าไปอีกส่วนหนึ่ง โดยจะต้องไปทำระเบียบและขออำนาจศาลสั่ง นอกจากนี้ในที่ประชุมได้มีการรายงานว่าวันนี้สารตั้งต้นยาเสพติดราคาถูกมาก ไซยาไนด์ 1 กิโลกรัม ราคา 100 บาท แต่สามารถผลิตยาบ้าได้เป็นหมื่น ๆ เม็ด แต่มั่นใจว่าจะแก้ไขได้