ตำรวจเร่งคลี่ปมหนุ่มเพิ่งกลับจากเยอรมนี ถูกเผาทิ้งศพปริศนาในโรงเรียน จ.บุรีรัมย์ ญาติเชื่อถูกฆาตกรรมไม่ใช่ฆ่าตัวตาย

วันที่ 11 ต.ค. 2565 จากกรณีที่พบศพนายธนทัต อายุ 23 ปี ถูกเผาเสียชีวิตภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ต.ค.) หลังกลับจากประเทศเยอรมนีพร้อมครอบครัวได้เพียงวันเดียว โดยที่บริเวณศีรษะมีรอยเขียวช้ำคล้ายถูกของแข็ง ข้างศพพบรองเท้า 1 คู่ ไฟแช็ก 1 อัน คราบน้ำมันและหยดน้ำตาเทียนที่คาดว่าใช้ในการก่อเหตุครั้งนี้ นอกจากนี้ยังพบกระเป๋าสะพายสีฟ้าของผู้ตาย วางอยู่บนตะแกรงเหล็กจุดทิ้งขยะรีไซเคิลของโรงเรียน เมื่อตรวจสอบในกระเป๋าสะพายพบกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล 1 ใบ ด้านในมีเงินจำนวน 280 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และบุหรี่ 2 ซอง

ความคืบหน้าคดีนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ประโคนชัย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และเก็บหลักฐานที่จุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาข้อมูล และภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งภายในโรงเรียนและพื้นที่ใกล้เคียง

แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบเพียงวงจรปิดที่เห็นผู้ตายเดินผ่านหน้าร้านค้าข้างบ้านก่อนจะหายตัวไปเท่านั้น ส่วนวงจรปิดจุดอื่นยังไม่พบ ขณะที่วงจรปิดที่โรงเรียนก็ใช้การไม่ได้ โดยพนักงานสอบสวนเตรียมส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งปมการเสียชีวิตไว้ 3 ประเด็น คือ ชิงทรัพย์ ความขัดแย้งส่วนตัว และฆ่าตัวตาย ซึ่งก็ต้องรอผลการชันสูตรและข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขณะที่บรรยากาศบ้านของผู้เสียชีวิตเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติและชาวบ้านมาคอยให้กำลังใจทั้งแม่และภรรยาของผู้ตายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภรรยาซึ่งมีลูกสาววัย 3 ขวบกับผู้เสียชีวิต ยังร้องไห้ตลอดเวลาเนื่องจากทำใจไม่ได้ และสามีมาเสียชีวิตในวันเกิดของตัวเอง

สอบถามนางพรพรรณ แม่ของผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกชายไปอยู่กับตนเองที่ประเทศเยอรมนีได้ 3 ปี เพิ่งจะกลับมาบ้านที่ไทยได้วันเดียวก็มาพบเป็นศพถูกเผาเสียชีวิต ส่วนตัวไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร เพราะตั้งแต่ลูกชายไปอยู่ที่ต่างประเทศก็ไม่เคยเห็นติดต่อกับใครนอกจากลูกและภรรยา ไม่น่าจะมีปัญหาขัดแย้งกับใครได้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะฆ่าตัวตาย เพราะไม่ได้มีความเครียดอะไรและก็ไม่เคยเล่าปัญหาหรือระบายอะไรให้ฟัง ซึ่งถ้าจะคิดสั้นก็น่าจะทำตั้งแต่อยู่ที่ต่างประเทศก็ได้ และลูกเป็นคนที่รักตัวเองมาก อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งคลี่ตลายสาเหตุและติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ด้าน น.ส.ยุพาภรณ์ ภรรยาผู้ตาย เล่าทั้งน้ำตาว่า วันเกิดเหตุก็เป็นวันเกิดของตัวเอง ซึ่งทางครอบครัวก็มีการกินเลี้ยงสังสรรค์กันในหมู่ญาติ ไม่เห็นสามีจะผิดปกติอะไร และไม่เห็นสามีรับโทรศัพท์ใคร แต่หากจะส่งข้อความมานัดให้ออกไปหาก็ไม่ทราบ เพราะไม่สามารถดูมือถือของสามีได้ ตอนนี้ได้ให้มือถือกับตำรวจไปตรวจสอบแล้ว แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าสามีจะฆ่าตัวตาย น่าจะถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้วเผาศพอำพรางมากกว่า แต่เพราะสาเหตุอะไรก็ต้องรอข้อมูลจากทางตำรวจ อยากให้ผู้ก่อเหตุมามอบตัวและยอมรับผิดกับสิ่งที่ทำ