รัฐบาลแจง แม้ พรบ.กัญชา กัญชง ยังไม่มีผลบังคับใช้ แต่มีกฎหมายควบคุมการใช้ให้เหมาะสมเพียงพอ

 

วันที่ 18 ก.ย. 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติให้ถอนร่าง พรบ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. ออกจากวาระประชุม โดยให้มีการทบทวนร่างกฎหมายใหม่อีกครั้ง ทำให้เกิดกระแสความกังวลว่า จะไม่มีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาและกัญชงนั้น

รัฐบาลขอยืนยันว่า ปัจจุบันมีกฎหมายที่ควบคุมการใช้กัญชา กัญชง ให้เหมาะสมอย่างรอบด้าน โดยนับแต่รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์ โดยปลดล็อกให้ทุกส่วนของกัญชาและกัญชงออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ ยกเว้นแต่เพียงสารสกัดจากกัญชาและกัญชงที่มีสาร THC เกินกว่า 0.2 % ที่ยังถือเป็นยาเสพติด มีผลมาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 65 กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกกฎหมายหลายฉบับเพื่อควบคุมการใช้ให้เป็นไปตามนโยบายที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อเศรษฐกิจ ไม่สนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ

กฎหมายที่กระทรวงสาธารณสุขออกมาแล้ว ได้แก่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ.2565 มีผลบังคับมาตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 65 ควบคุมไม่ให้มีการสูบ เสพในที่สาธารณะทุกประเภท หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 65 มุ่งกำกับให้มีการใช้กัญชาในฐานะพืชสมุนไพรควบคุมให้เป็นไปอย่างเหมาะสม จำกัดการครอบครองช่อดอกกัญชาทั้งระดับบุคคลและวิสาหกิจชุมชน มีการห้ามจำหน่ายกัญชาให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่ให้นมบุตร หากฝ่าฝืนก็ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

 

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านการควบคุมการนำกัญชาไปประกอบอาหาร มีประกาศกรมอนามัย เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบหรือปรุงอาหาร ในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 ซึ่งกำหนดให้สถานประกอบกิจการต้องควบคุม กำกับ และจัดให้มีการสื่อสารข้อมูลด้านสุขภาพและการต้องตระหนักถึงความปลอดภัยแก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับการจำหน่ายอาหารที่มีการใช้ใบกัญชาเป็นส่วนประกอบ

ทางด้านผู้ประกอบการที่จะนำกัญชา กัญชง ไปใช้ในกระบวนการผลิตเป็นสินค้า ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องสำอาง ก็ต้องมีการขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ

"แม้ร่าง พรบ.กัญชา กัญชง ยังคงต้องอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา กฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ก็จะควบคุมการใช้กัญชา กัญชง ไปจนกว่าพระราชบัญญัติฉบับสมบูรณ์จะออกมาบังคับใช้ หรือหากมีกรณีใดที่มีความจำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ ก็มีคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน สามารถพิจารณาออกประกาศหลักเกณฑ์ต่างๆ มาดูแลเพื่อให้เกิดความเหมาะสมเพิ่มเติมได้" น.ส.ไตรศุลี กล่าว