ลุงวัย 54 ปี ไปหาหอยริมห้วยแแล้วไม่กลับบ้าน ญาติแจ้งกู้ภัยช่วยตามหา พบกลายเป็นศพถูกหินทับไว้ใต้น้ำ ตำรวจสอบถามผู้ต้องสงสัยเป็นชายเร่ร่อนนอนใต้สะพานที่เกิดเหตุ สารภาพเป็นคนลงมือฆ่า อ้างว่าผู้ตายซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เมาสุราแล้วมาด่าจึงใช้ไม้ฟาดเสียชีวิต

 

วันที่ 14 ส.ค. 2565 เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.ขัตติยะ เพชรกล้า รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพคนจมน้ำ ที่สะพานห้วยจระเข้มาก ปากทางเข้าบ้านห้วย ม.7 ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพาน พบศพนายโกสม คะริบรัมย์ อายุ 54 ปี ถูกหินใหญ่ทับร่างถึง 2 ก้อน ในสภาพนอนหงาย มือขวาโผล่เหนือน้ำ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ ใส่กางเกงขาสั้นสีดำ

จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น พบบริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลออกจำนวนมาก สันนิฐานว่าถูกของแข็งตีที่ศีรษะ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง เนื่องจากกล้ามเนื้อเกร็งแข็ง เนื้อตัวซีดจากการจมอยู่ในน้ำ

สอบถาม นายกรันต์ ปรีดาศักดิ์ อายุ 43 ปี หลานผู้ตาย เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 13 สค. 65 ที่ผ่านมา ผู้ตายได้มาชวนตนมางมหอยบริเวณคลองใกล้หมู่บ้านแต่ตนได้ปฏิเสธ ผู้ตายเลยมาคนเดียว และได้หายตัวไปจนถึงเวลา 23.00 น.ญาติจึงออกตามหา จนกระทั่งมีชาวบ้านที่รู้จักผู้ตายมาแจ้งว่า เห็นรถจักรยานจอดทิ้งไว้ แต่ไม่เห็นคน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ช่วยตามหาบริเวณที่รถจักรยานจอดอยู่ นานกว่า 2 ชั่วโมงก็ยังไม่พบตัว จนเจ้าหน้าที่เกือบถอนกำลัง สุดท้ายหน่วยกู้ภัยเห็นมือโผล่ขึ้นเหนือน้ำ จึงเข้าไปตรวจสอบพบนายกรันต์ กลายเป็นศพในลักษณะถูกก้อนหินทับไว้ใต้น้ำลึกประมาณ 80 เซนติเมตร

จากนั้นตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพียงนายก้าวหน้า อายุ 36 ปี มีอาชีพเก็บของเก่าขาย อาศัยอยู่ใต้สะพานที่เกิดเหตุ ตอนแรกตำรวจไม่สงสัยเพราะนายก้าวหน้า ไม่ได้หลบหนีไปไหน ยังนอนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ แต่จากการตรวจสภาพทั่วไปแล้ว บริเวณดังกล่าวไม่ใช่สถานที่ที่มีคนผ่านไปมามากนัก ตำรวจจึงเค้นสอบนายก้าวหน้า สุดท้ายรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าผู้ตายจริง โดยอ้างว่า ผู้ตายมาหาหอยมีอาการเมามาก่อกวนและตะคอกใส่ ตนจึงโมโห เกิดการต่อสู้กัน ตนได้ใช้ไม้ฟาดตรงศีรษะ จากนั้นจับกดน้ำจนเสียชีวิต ก่อนจะใช้ก้อนหินทับร่างซ้ำให้จมน้ำ ส่วนสาเหตุที่ไม่หลบหนีไปไหน เพราะต้องการอำพรางคดีให้ตำรวจตายใจ ตำรวจจึงคุมตัวไปโรงพักเพื่อสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป ส่วนศพได้ให้ทางกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลบุรีรัมย์เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง