"นายกฯ" ย้ำปลดล็อกกัญชา-กัญชง เพื่อประโยชน์สูงสุดด้านการแพทย์และเศรษฐกิจ ห่วงกลุ่มเด็ก เยาวชน หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ นำไปใช้เพื่อสันทนาการ

วันที่ 11 มิ.ย.65 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบในข้อห่วงใยและข้อเสนอแนะต่า งๆ ของทุกภาคส่วน ที่มีต่อการปลดล็อกใช้กัญชา กัญชง ซึ่งมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา โดยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อกําหนดมาตรการ แนวทางปฏิบัติ และกํากับดูแลการใช้กัญชา ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการอนุญาตให้ใช้กัญชาในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ด้านการแพทย์ การรักษาพยาบาลทั้งแผนปัจจุบันและการแพทย์แผนไทย ลดรายจ่ายด้านการรักษาและเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพและยังเป็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 65 ได้มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการ 6 คณะ เพื่อช่วยปฏิบัติหน้าที่ในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย

1.ด้านการแพทย์ และการบำบัดรักษา
2.ด้านการให้ความรู้แก่เยาวชนและผลกระทบทางสังคม
3.ด้านการผลิตทางเกษตรกรรม
4.ด้านการป้องกันการลักลอบนำเข้า การผลิต ที่ผิดกฎหมาย
5.ด้านกฎหมาย
6.ด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์

ทั้งนี้ ที่ประชุมจะมีการออกแนวทางในการกำหนดแนวทางการใช้กัญชา-กัญชง ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ คือเพื่อประโยชน์สูงสุดด้านการแพทย์และเศรษฐกิจ โดยมีมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดการใช้ผิดวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบทางสังคมต่อไป

"นายกรัฐมนตรียังกำชับให้สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชน ว่าการปลดล็อกครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเสพเพื่อสันทนาการ โดยหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งให้ความรู้กับประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ผ่านกลไกของจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ให้เกิดความสับสนทั้งในเรื่องการปลูก การเสพ และการนำไปจำหน่าย ลดความกังวลของสังคมเกี่ยวกับการใช้กัญชาผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้กลุ่มเปราะบางเข้าถึงกัญชา โดยเฉพาะกลุ่มเด็ก เยาวชน หญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ นำไปใช้เพื่อสันทนาการ ซึ่งอาจเกิดผลกระทบด้านสุขภาพและสังคมตามมา" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว