พปชร. ลงโทษ "พิเชษฐ" งดสิทธิ์ร่วมงานพรรค-รับรู้ข่าวสาร 6 เดือน โทษฐานคุย"ทักษิณ" และประชุมหารือกับพรรคเพื่อไทย ถือเป็นปฏิปักษ์กับพรรค ยันไม่ขับออก อยู่กันไปแบบนี้ แต่หาก "พิเชษฐ" จะพิจารณาอย่างอื่นก็แล้วแต่ เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว

 

ภายหลังคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ​ ที่มีนายไพบูลย์​ นิติตะวัน​ เป็นประธาน​ พิจารณากรณีที่นายพิเชษฐ​ สถิรชวาล​ สมาชิกพรรคเข้าข่ายกระทำผิดข้อบังคับพรรค โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้นนายไพบูลย์ พร้อมคณะกรรมการ ได้แถลงร่วมกัน ระบุว่า นายพิเชษฐ มีพฤติกรรมกระทำผิดข้อบังคับพรรคถึง 3 เรื่อง

1. เคลื่อนไหวตั้งกลุ่มการเมืองขึ้นมา ใช้ชื่อกลุ่ม 16 โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากพรรคพลังประชารัฐและตามคำสั่งของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ห้ามไม่ให้สมาชิกตั้งกลุ่มการเมืองขึ้นมาเพราะจะเป็นการทำลายเอกภาพของพรรคพลังประชารัฐ

2. นายพิเชษฐ์ มีสถานะเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่ไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 28 เมษายนและวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เพื่อเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี จึงถือเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อพรรคพลังประชารัฐ และการไปร่วมประชุมถึง 2 ครั้งถือเป็นการกระทำที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย

3. นายพิเชษฐ์ ได้โทรศัพท์คุยกับนายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับในคดีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และเป็นบุคคลที่ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นการคบหาผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับพลังพรรคพลังประชารัฐและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของสมาชิกพรรคด้วย

ซึ่งการกระทำทั้ง 3 กรณีของนายพิเชษฐ์ จึงถือว่าเป็นการกระทำตามอำเภอใจ โดยไม่มีสำนึกร่วมรับผิดชอบต่อเสถียรภาพของพรรค ไม่มีจิตสำนึกในอุดมคติของพรรค และไม่เป็นไปตามหลักการอยู่ร่วมกันของสมาชิกพรรคภายใต้ระเบียบแบบแผนของพรรค

คณะกรรมการจึงมีมติ ให้นายพิเชษฐ์ งดเว้น สิทธิ์ในฐานะสมาชิกพรรคที่พึงจะได้ เป็นการชั่วคราว 6 เดือน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม - 12 พฤศจิกายน 2565

ทั้งสิทธิ์ในการได้รับเสนอชื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการหรือตำแหน่งอื่นในสัดส่วนของพรรค /สิทธิ์ในการร่วมกิจกรรม ร่วมประชุมหรือใช้ห้องประชุมพรรค/สิทธิ์ในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร/ สิทธิ์ในการใช้ชื่อ ตรา เครื่องหมายสัญลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐในการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ โดยจะจัดทำรายงานเสนอต่อหัวหน้าพรรคให้ทราบต่อไป

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ นายพิเชษฐ์ ก็ท้าทายให้พรรคพลังประชารัฐ ขับออก กรรมการได้พิจารณาข้อนี้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า การกระทำผิดมันไม่ถึงขั้นจะต้องให้ความสำคัญขนาดที่จะต้องไปให้กรรมการบริหารพรรค กับ ส.ส.พรรคมาประชุม แต่หากนายพิเชษฐ์ ยังกระทำการดังกล่าวซ้ำสองอีก ก็จะมีการขยายเวลาบทลงโทษออกไป จากเดิม 6 เดือนก็ขยายไปแล้วแต่ฐานความผิด แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการขับนายพิเชษฐ์ ออกจากพรรคเด็ดขาด

เมื่อถามย้ำว่า การที่ไม่พิจารณาขับนายพิเชษฐ์ออก เพราะกังวลเรื่องของเสียงในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่กังวลกรณีนี้ไม่กังวลใดๆทั้งสิ้น แต่มันไม่มีความจำเป็นที่จะไปรบกวนในกระบวนการของกรรมการบริหารพรรคทั้งคณะ และ ส.ส.ทั้งพรรค มาพิจารณาเรื่องกรณีคุณพิเชษฐ์คนเดียว มันไม่มีความจำเป็นใดๆทั้งสิ้น และต้องขอย้ำว่าการพิจารณาครั้งนี้ เป็นการพิจารณาในฐานะที่นายพิเชษฐ์ เป็นสมาชิกพรรคไม่ได้พิจารณาในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร