ครบรอบ 2 ปี เหตุกราดยิงที่โคราช น้องเนย หนุ่มบิกไบก์ฮีโร่ อาการบาดเจ็บฟื้นเกือบปกติ ได้กำลังใจจากแฟนสาว ช่วยกันเปิดร้านกาแฟที่บ้าน เผยใช้ชีวิตให้มีความสุขอยู่กับปัจจุบันดีที่สุด

 

เมื่อวานนี้ 8 ก.พ. 2565 ครบรอบ 2 ปี เหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนั้น คือ นายจิรัฐิติกาล นอบไทย (เนย) อายุ 28 ปี หนุ่มบิกไบก์

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 899/48 หมู่บ้านศิริสุข 1 วิลเลจ ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านของ นายจิรัฐิติกาล เพื่อติดตามอาการ พบว่า ร่างกายของน้องเนยฟื้นกลับมาเกือบร้อยละ 90 และครอบครัวได้ต่อเติมข้างบ้าน เพื่อเปิดร้านกาแฟให้น้องเนยทำงานอยู่ที่บ้าน ใช้ชื่อร้านว่า “บักเนยคาเฟ่” ซึ่งมีแฟนสาว และน้องชาย ช่วยดูแลร้านกาแฟแห่งนี้

โดยภายในร้านได้ตกแต่งบรรยากาศแบบน่ารัก มีมุมนั่งจิบกาแฟใต้ต้นไม้นอกร้าน และภายในร้านมีชั้นวางขายเบเกอรี่ ขนมบราวนี่ และคอนเฟลก ที่น้องเนยกับแฟนสาวทำขึ้นมาขายเอง ส่วนเครื่องดื่ม นอกจากจะมีกาแฟสดแล้ว ยังมีน้ำผลไม้ น้ำชาเขียว และนมสดด้วย ซึ่งขายในราคาถูกมาก เพียงแก้วละ 25 บาทเท่านั้น

นายจิรัฐิติกาล กล่าวว่า แม้จะผ่านพ้นช่วงเหตุการณ์กราดยิงมาได้ถึง 2 ปีแล้วก็ตาม ภาพเหล่านั้นก็ยังติดตามาจนถึงทุกวันนี้ แต่ได้รับกำลังใจดีจากพ่อ แม่ และแฟนสาว ทำให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้นจนสามารถใช้ชีวิตได้เกือบเหมือนคนปกติทุกอย่างแล้ว โดยมือข้างซ้ายที่ถูกคมกระสุนจากอาวุธสงครามกราดยิง ก็สามารถหยิบจับสิ่งของได้ แต่ยกของหนักมากไม่ได้ ยังรู้สึกเจ็บ ๆ ที่บริเวณหัวไหล่อยู่ ขณะที่อาการบริเวณช่องท้อง แพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ก็ยังนัดไปตรวจอาการไตที่ยังออกมาอยู่ภายนอกท้องทุก 6 เดือน ตอนนี้ก็ได้มาเปิดร้านกาแฟสดอยู่ที่บ้าน โดยมีน้องชาย และ น.ส.อนุสรา แซ่จิว หรือน้องบี  แฟนสาวมาช่วยดูแลร้านด้วย ซึ่งใช้ชื่อร้านว่า “บักเนยคาเฟ่” เปิดมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ก็มีลูกค้าทั้งในหมู่บ้านและคนที่อยากมาให้กำลังใจ เข้ามาอุดหนุนมากพอสมควร ก็อยากให้กำลังใจกับคนที่ยังท้อแท้อยู่ว่า ขอให้มองดูคนที่ลำบากกว่าเรา ซึ่งมีอยู่มากในโลกนี้ เค้ายังสู้ชีวิตต่อไปได้ เรื่องร้ายๆ ในอดีตก็อย่าเก็บมาเป็นปัญหาชีวิต ขอให้มองเพียงปัจจุบัน และใช้ชีวิตให้มีความสุขกับปัจจุบันดีกว่า

ด้าน น.ส.อนุสรา แซ่จิว หรือบี แฟนสาว กล่าวว่า ได้มาคบกับน้องเนยเกือบ 1 ปีแล้ว ซึ่งมีความประทับใจว่าเป็นคนที่สู้ชีวิตมาก แม้ว่าจะถูกอาวุธสงครามยิงจนอาการสาหัส แต่ก็ยังอดทนอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จนมีคนเข้าไปช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล  เพราะถ้าเป็นคนอื่นคงจะเสียชีวิตไปแล้ว และหลังจากออกมากจากโรงพยาบาลแล้ว ก็เดินไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้มานานนับปี แต่ก็พยายามทำกายภาพบัดบัดจนร่างกายฟื้นสามารถใช้ชีวิตเกือบเหมือนคนปกติได้ราวกับปาฏิหาริย์ ซึ่งตนเองก็พยายามให้กำลังใจแฟนมาโดยตลอดว่า อย่าไปกังวลใจมาก โดยตนเองนับถือศาสนาคริสต์ ก็จะมีความเชื่อในพระเจ้า จึงพาแฟนไปเข้าโบสถ์เป็นประจำทุกวันอาทิตย์ เพื่อขอพรจากพระเจ้าให้หายป่วย พร้อมกับบอกว่า ถ้าเรามีความเชื่อว่าจะหาย ทุกอย่างก็จะหายดีตามความเชื่อแน่นอน.