นายอำเภอเกาะลันตาชี้โฉนดที่ดินมิชอบ 'เกาะนุ้ยนอก' พบเอกสารกับพื้นที่ไม่ใช่จุดเดียวกัน สั่งตั้ง คกก.สอบเอาผิด จนท. หลังผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งเป็นคนนำชี้เเนวเขต คาดรู้ผลภายใน 15 วัน

 

จากกรณีชาวบ้านเจ๊ะหลี หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ยื่นหนังสือถึงนายอำเภอเกาะลันตา ให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน บนพื้นที่เกาะนุ้ยนอก เนื้อที่ 5 ไร่เศษ และมีการประกาศขายไร่ละ 20 ล้านบาท ทั้งที่เกาะดังกล่าวไม่เคยมีหลักฐานของการอยู่อาศัย ทำกิน และไม่เคยมีการครอบครองของบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ 

อ่านประกอบ : 'อัจฉริยะ' จี้ ปทส. สอบออกโฉนดที่ดินมิชอบ บนเกาะนุ้ยนอก กระบี่

 ป.ป.ช.กระบี่ชี้โฉนดที่ดินบนเกาะนุ้ยนอก อาจไม่ชอบด้วย กม.

 ฮุบ 'เกาะนุ้ยนอก' พบเซ็นโฉนดก่อนเกษียณ 2 วัน -สาวลึกพัวพัน ขรก.ระดับสูงดีเอสไอ

ส.ส.ก้าวไกล เตรียมยื่นดีเอสไอ-ป.ป.ช. สอบออกโฉนด 'เกาะนุ้ยนอก' ไม่ชอบ กม.


ล่าสุด วันที่ 4 ธ.ค. 2564 นายสมโภชน์ ทองชู นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ เปิดเผยความคืบหน้าในการตรวจสอบเรื่องนี้ว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลในสารบบของสำนักงานที่ดินส่วนแยก อ.เกาะลันตา พบว่าเอกสารต้นทาง คือ ส.ค.1 ที่นำมาใช้ออกโฉนดที่ดินบนเกาะนุ้ยนอก พบเป็น ส.ค.1 ที่ไม่ตรงกับพิกัดเดิม 

โดยเอกสารฉบับดังกล่าวเป็น ส.ค.1 เลขที่ 21 ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.เกาะลันตาใหญ่ ซึ่งต่อมามีการแบ่งแยกการปกครองของหมู่บ้าน ทำให้เอกสาร ส.ค.1 ฉบับดังกล่าว ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านเกาะปอ ต.เกาะลันตาใหญ่ แต่กลับถูกนำมาออกเป็นโฉนดในพื้นที่บ้านเจ๊ะหลี หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่ 

นอกจากนี้ตามรายละเอียดในเอกสาร ส.ค.1 ฉบับดังกล่าว แจ้งไว้ว่าพื้นที่ครอบครองเดิมเป็นสวนมะพร้าวและสวนผลไม้ แต่จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่เกาะนุ้ยนอก ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ และมีผู้ครอบครองแต่อย่างใด จึงชี้ให้เห็นว่าเอกสารที่ใช้ออกโฉนดกับพื้นที่ออกโฉนด ไม่ใช่พื้นที่เดียวกัน ขณะนี้ทางคณะกรรมการในระดับอำเภอ จึงทำรายงานเรื่องนี้ไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัด เพื่อให้ดำเนินการแจ้งให้กรมที่ดินทราบ และพิจารณาเพิกถอนโฉนดดังกล่าว

นายอำเภอเกาะลันตา กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิเป็นอีกประเด็นที่ต้องตรวจสอบว่ามีใครที่มีส่วนรู้เห็นบ้าง เบื้องต้นที่มีข้อมูลปรากฎในสารบบเอกสารการออกโฉนด พบว่ามีผู้ใหญ่บ้านจากอีกหมู่บ้าน เป็นคนนำชี้แนวเขต และลงนามในฐานะผู้ปกครองท้องที่แทนนายอำเภอเกาะลันตา ซึ่งไม่ได้มีอำนาจลงนามตามคำสั่งอำเภอเกาะลันตาที่ 141/2564 เบื้องต้นสั่งตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง โดยให้รู้ผลภายใน 15 วัน

จากนั้นจึงเสนอเรื่องให้ทางจังหวัดพิจารณาลงโทษทางวินัยตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ส่วนจะมีความผิดทางอาญาด้วยหรือไม่นั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานรับผิดชอบ ทั้งกรมป่าไม้ และ ป.ป.ช. ในส่วนของเจ้าพนักงานที่ดินที่ออกโฉนดดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมที่ดิน ซึ่งล่าสุดทราบว่าทางกรมที่ดิน สั่งตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว

ขณะเดียวกันนายนฤเศรษฐ แก้วคง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 4 (ภาคใต้) กรมป่าไม้ ที่ก่อนนี้นำกำลังลงไปตรวจสอบเรื่องนี้ ทำรายงานเรื่องที่มาของเอกสาร ส.ค.1 ให้ทางอธิบดีกรมป่าไม้ ทราบแล้ว โดยหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบรายละเอียดพิกัดที่ดินที่ชัดเจน รายงานให้กรมป่าไม้ทราบ และนำแจ้งให้กรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ จากนั้นจึงจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้มีการดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 

นอกจากนี้ชุดตรวจสอบของกรมป่าไม้ ยังได้เบาะแสจุดที่น่าสงสัยว่าอาจจะมีการออกเอกสารสิทธิมิชอบอีกอย่างน้อย 19 จุด ในพื้นที่ทะเลอันดามัน ทั้งในเขต จ.กระบี่ และ จ.พังงา ซึ่งต้องตรวจสอบอีกครั้งว่ายังมีพื้นที่ใดอีกบ้านที่ออกเอกสารมาโดยมิชอบ