ลุ่มน้ำเจ้าพระยาน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง เตรียมเฝ้าระวังฝนหนัก น้ำล้นตลิ่งอีกระลอก ตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำป่าสัก วันนี้ (10 ต.ค.2564) เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปรับลดการระบายน้ำเหลือ 550 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มลดลง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ลดลง 84 ซม., อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ลดลง 90 ซม., อ.เมือง จ.สระบุรี ลดลง 66 ซม., อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลง 34 ซม.
ขณะที่เขื่อนพระราม 6 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 750 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อน ลดลง 23 ซม. คลองระพีพัฒน์รับน้ำ 183 ลบ.ม./วินาที ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไปสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีแนวโน้มลดลงทุกสถานี ดังนี้
- สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีน้ำไหลผ่าน 2,451 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ลดลงเล็กน้อยประมาณ 6 ซม.
- ขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับลดการระบายน้ำเหลือ 2,545 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนลดลง ดังนี้ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ลดลง 7 ซม. และ อ.เมือง จ.อ่างทอง ลดลง 4 ซม.
แนวโน้มระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก น้ำล้นตลิ่งอีกระลอก ตามประกาศของ กอนช. จึงขอให้ติดตามข่าวการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ข่าวแจ้งเตือนจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติอย่างใกล้ชิด ในช่วงนี้เป็นต้นไปจนถึงกลางเดือน ต.ค.2564
ขณะที่ อบจ.นนทบุรี เร่งเสริมแนวกระสอบทราย หลังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงสุด ล้นเข้าวัดใหญ่สว่างอารมณ์ นายจำลอง ขำสา รองนายก อบจ.นนทบุรี นายสมยศ วิชากร นายอำเภอปากเกร็ด พร้อมเจ้าหน้าที่อบต.อ้อมเกร็ด เร่งตักทรายบรรจุใส่กระสอบ นำไปวางสร้างแนวเขื่อนป้องกันน้ำชั้นที่ 2 หลังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นกว่าทุกวัน จนระดับน้ำในแม่น้ำสูงเท่ากับแนวกระสอบทรายของเดิมที่ทาง อบจ.นนทบุรี ส่งผลให้มีน้ำล้นทะลักเข้ามาทางท่อระบายน้ำตามทางเดินภายในวัดใหญ่สว่างอารมณ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
เจ้าหน้าที่ต้องเร่งนำกระสอบทรายไปวางสร้างแนวเขื่อนใหม่แทนของเดิมที่ถูกน้ำท่วมและกำลังไหลเข้าไปภายในพื้นที่ของวัด โดยใช้เวลานานกว่า 2 ชม.จึงแล้วเสร็จ ก่อนจะเดินทางด้วยเรือไปตรวจดูประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำคลองบางบัวทอง ประตูระบายน้ำ คลองพระอุดม ประตูระบายน้ำ คลองอ้อมนนท์ ซึ่งทางกรมชลประทานได้เดินเครื่องสูบน้ำตลอด 24 ชม. ซึ่งแต่ละประตูสามารถระบายน้ำได้ปริมาณเฉลี่ย 19-20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ก็พบว่ามีบ้านเรือนของประชาชนบางส่วนที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาบ้างหลังมีน้ำท่วมสูงถึงระดับเอว หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งนำถุงยังชีพเข้าไปให้ความช่วยเหลือต่อไป
สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ขึ้นสูงสุดในรอบเดือนตุลาคม อยู่ที่ระดับ 2.50 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก) ส่วนค่ำนี้เวลาประมาณ 19.00 น. จะขึ้นอีกครั้ง แต่จะไม่สูงเท่ากับช่วงเช้าที่ผ่านมา เพราะขณะนี้น้ำเหนือเริ่มลดลงแล้ว กรมชลประทานระบายอยู่ที่ 2,960 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำถือว่าขึ้นสูงสุดแล้ว จากนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะค่อย ๆ ลดลง