ตีฆ้องร้องแปด | 

ทั้งที่ใช้มานานกว่า 60 ปี สุดท้ายทางการตอบ ถนนอยู่ในเขตพื้นที่ป่า แล้วชาวบ้านจะทำอย่างไร?


4 ต.ค.2564 นายนิวัฒน์ ปะระมา นายกเทศมนตรีตำบลเวียงตาล พร้อมฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาเทศบาล ผู้นำชุมชน และชาวบ้านกว่า 100 คน เดินทางมายังศาลากลาง จ.ลำปาง ยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ขอความเป็นธรรม ระบุว่า นายอำเภอห้างฉัตรเลือกปฏิบัติ มีการสั่งยุติโครงการเฉพาะในส่วนของเทศบาลตำบลเวียงตาลเท่านั้น แต่เทศบาลอื่น ๆ อีก 6 แห่งในพื้นที่สามารถดำเนินโครงการได้ พร้อมกันนี้ได้นำป้ายข้อความต่าง ๆ เช่น ชาวเวียงตาลไม่เอานายอำเภอที่เลือกปฏิบัติให้ย้ายออกไป ชาวอำเภอห้างฉัตรอยากได้นายอำเภอที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข ท่านเลือกปฏิบัติ คนที่เสียผลประโยชน์คือชาวบ้าน เป็นต้น

ทั้งนี้ มี นายจำลักษ์ กันเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, นายอนวัช สัตตบุศย์ ปลัดจังหวัดลำปาง และนางศุกลรัตน์ จันทร์มณี ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง เข้ารับหนังสือและชี้แจงกับชาวบ้าน

นายนิวัฒน์ ปะระมา นายกเทศมนตรีตำบลเวียงตาล เปิดเผยว่า การมายื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านตำบลเวียงตาล ในเรื่องที่นายอำเภอห้างฉัตรได้เลือกปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีของ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งเทศบาลได้รับงบประมาณเหลือจ่าย ปี 64 จากกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้แนวปฏิบัติตามคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการบำรุงถนนสาธารณะต่าง ๆ โดยไม่ต้องขออนุญาต ยกเว้น ป่าสงวน อุทยานแห่งชาติ และเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า เป็นต้น

ซึ่งป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 จะเป็นถนนหนทางที่ชาวบ้านใช้มานานกว่า 50-60 ปี มาแล้ว หมดสิ้นความเป็นป่าไปแล้ว แต่นายอำเภอได้มีคำสั่งให้เทศบาลตำบลเวียงตาลขออนุญาตก่อน แต่เทศบาลอื่นใกล้เคียงกันอีก 7 แห่งในอำเภอห้างฉัตร ไม่ได้มีการถูกตรวจสอบ เมื่อมีโอกาสได้สอบถามนายอำเภอห้างฉัตร ก็บอกว่าเทศบาลอื่นไม่ได้ติดพื้นที่ป่า ซึ่งไม่ได้ทำการตรวจสอบจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ดูจากเว็บไซต์กูเกิลเท่านั้น อยากจะขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะโครงการต่าง ๆ เป็นความต้องการของชาวบ้าน

โดยโครงการที่มีปัญหามีอยู่ 3 โครงการ งบประมาณอยู่ที่ 1.4 ล้านบาท แต่เมื่อนายอำเภอสั่งมาเช่นนี้แล้วโครงการทั้งหมดในเทศบัญญัติของตำบลเวียงตาลจะไม่สามารถทำได้เลย จะต้องขออนุญาตทั้งหมด ทั้งที่นายอำเภอก็เพิ่งได้ตรวจเทศบัญญัติไป ถ้าหากมีนโยบายกำชับการใช้พื้นที่ป่าจะต้องทำเป็นภาพรวมอำเภอทั้งหมด ไม่ใช่มาเจาะจงที่ตำบลเวียงตาลที่เดียว

นายกเทศมนตรีตำบลเวียงตาล กล่าวอีกว่า ถ้าไม่ได้ใช้งบประมาณตรงนี้งบก็มีโอกาสถูกดึงกลับไป ชาวบ้านก็จะเสียโอกาสตรงนี้ แทนที่จะได้มีถนนที่ดี ได้งบจัดสรรจากรัฐบาล งบในเทศบัญญัติมีน้อย หมู่บ้านหนึ่งได้เพียง 6-7 แสนบาท ซึ่งในปีนี้เทศบาลได้งบอุดหนุนจากรัฐบาลมา 20 กว่าล้านบาท ตอนนี้กลายเป็นว่าทุกถนนทุกซอยในพื้นที่ตำบลเวียงตาลเป็นป่าทั้งหมด หากนายอำเภอใช้ดุลพินิจแบบนี้เป็นการไม่เท่าเทียม และเป็นการปฏิบัติไม่เสมอภาค

ด้าน นายจำลักษ์ กันเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ป่า 2484 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ไม่มีคนครอบครอง รวมทั้งถนนหนทางต่าง ๆ ก็ถูกตีความว่าเป็นป่า แต่เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้มีมานานแล้ว จ.ลำปางก็เคยมีกรณีเช่นนี้ ที่ ต.บ้านเอื้อม เป็นการขุดคลองในพื้นที่ป่า แต่เป็นการพัฒนาอำนวยความสะดวกให้ประชาชน กฤษฎีกาตีความไว้ว่า ในเมื่อไม่มีสภาพเป็นป่าอยู่แล้วก็เข้าดำเนินการได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายก็ต้องแจ้งให้มีการปรับปรุงกฎหมายเสียก่อน ข้อเท็จจริงก็เห็นจากภาพถ่ายแล้วว่าสภาพไม่มีความเป็นป่า ไม่มีต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว แต่การบังคับกฎหมายกับข้อเท็จจริงต่างกัน ต้องปรับให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารงาน

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องเหล่านี้จะให้ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดรับเรื่อง และตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้าน