พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. เปิดเผย ภาพรวมการจราจรขาออก กทม. วันที่ 9-11 เม.ย. 64

ปริมาณรถขาออก วันที่ 9 เม.ย.64 จำนวน 662,000 คัน วันที่ 10 เม.ย.64 จำนวน 698,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีใหม่ 64 ร้อยละ 26 โดยมีปริมาณผู้ใช้ M6 ประมาณ 66,000 คัน หรือร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปริมาณรถใน .มิตรภาพ วันที่ 10 เม.ย.64 ประชาชนได้เดินทางออกจาก กทม. ไปยังทุกภาคของประเทศตั้งแต่ช่วงเช้า และน้อยลงในช่วงบ่าย และออกเดินทางไปภาคอีสานอีกครั้งในช่วงค่ำ สำหรับวันที่ 11 เม.ย.64 ประชาชนเริ่มออกเดินทางตั้งแต่ช่วงเช้า โดยส่วนใหญ่เดินทางไปยังภาคอีสาน และภาคเหนือ

โดยทางภาคเหนือรถที่มาจากวงแหวนตะวันออก (มอเตอร์เวย์สาย ๙) มีการชะลอตัวบริเวณจุดเชื่อมต่อ .พหลโยธิน ก่อนเข้าต่างระดับบางปะอิน เพื่อไปยัง .สายเอเชีย แนะนำให้ ปชช.ที่อยู่ฝั่งตะวันออกของ กทม. ใช้ทางด่วนอุดรรัถยา (บางนา-บางปะอิน) ไปลง .วงแหวนตะวันตก เลี้ยวขวา ทล.๓๔๗ ผ่านศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ไปออก .เอเชีย บริเวณบางปะหัน

สำหรับทางภาคอีสานมีปริมาณการจราจรในทางหลัก .พหลโยธิน - มิตรภาพ เป็นจำนวนมาก จึงมีการสะสมบริเวณ .พหลโยธิน และมิตรภาพช่วงต้น (ทับกวางถึงกลางดง) เมื่อถึงบริเวณหนองสาหร่ายแล้วเคลื่อนตัวได้ดีเนื่องจากใน M6 รองรับการเดินทาง ซึ่งในช่วงหนองสาหร่ายถึงต่างระดับสี่คิ้ว ขอให้พี่น้อง ปชช.ใช้ .มิตรภาพ (หลีกเลี่ยง M6) จะได้รับความสะดวกกว่า

การเดินทางสู่ภาคอีสานตอนล่าง (บุรีรัมย์) สามารถใช้ ทล.๓๐๔ (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) และ ทล.๓๔๘ (อรัญประเทศ-นางรอง) ได้เป็นอย่างดี โดยอาจชะลอตัวบ้างในช่วง แยกซำขวาง ถึงแยกเขาหินซ้อน ที่มีการซ่อมปรับปรุงทาง ซึ่งมีผ่านแล้วสามารถเคลื่อนตัวได้ดี

ทั้งนี้ พล...ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานจราจร เน้นย้ำมาตรการห้ามรถบรรทุกวิ่ง การเปิดช่องทางพิเศษ และการใช้ทางเลือก รวมถึงมอเตอร์เวย์ M6 ซึ่งโดยรวมสามารถใช้ในการบริหารจัดการจราจรได้เป็นอย่างดี การชะลอตัวสะสมของรถในบางเส้นทางที่ผ่านมาเกิดจากอุบัติเหตุในสายทางเป็นหลัก ส่วนใหญ่เกิดจากใช้ความเร็วและเว้นระยะห่างจากคันหน้าไม่เหมาะสม จึงเกิดการชนท้ายกีดขวาง และเนื่องจากมีฝนตกในบางเส้นทาง จึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุกีดขวางการจราจรในหลายเส้นทาง

จึงเรียนแนะนำพี่น้องประชาชนผู้ใช้ทาง ให้ใช้ความระมัดระวัง ใช้ความเร็วและเว้นระยะห่างจากคันหน้าให้สามารถหยุดรถได้ทันเมื่อมีเหตุจำเป็น