ทบ.ตั้งกรรมการสอบหน่วยต้นสังกัด พร้อมร่วมพิสูจน์เหตุ พลทหารรชฏฯ เสียชีวิต เร่งคลายข้อสงสัยของครอบครัว

(13 พ.ย. 2563) พลโท สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อมวลชนว่า พลทหาร รชฎ เสนาสนิท ได้เสียชีวิตลงในพื้นที่มณฑลทหารบกที่ 23 จ.ขอนแก่น และครอบครัวมีความสงสัยในสาเหตุของการเสียชีวิตนั้น

กองทัพบกได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวจากสื่อมวลชน และได้รีบตรวจสอบข้อมูลทันที สำหรับ พลทหาร รชฏ เสนาสนิท เป็นทหารกองประจำการ สังกัดมณฑลทหารบกที่ 23 ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 23 โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 1 พ.ย. 63 ได้ถูกพบว่าเสียชีวิตบริเวณศาลากลางน้ำภายในเรือนจำ หลังจากพบศพทางต้นสังกัดได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง พนักงานสอบสวน แพทย์ และหน่วยต้นสังกัด ร่วมกันตรวจสอบและชันสูตรศพ เบื้องต้นพบเป็นลักษณะคล้ายการฆ่าตัวตาย ไม่ปรากฎมีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย โดยพนักงานสอบสวนได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผล

ที่ผ่านมา หน่วยต้นสังกัดได้ดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนเกี่ยวกับการมีกำลังพลเสียชีวิต โดยมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง การแจ้งและอำนวยความสะดวกญาติในทางกฎหมาย การจัดพิธีศพ เมื่อ 1 - 5 พ.ย. 63 อย่างสมเกียรติ การมอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิและที่เพิ่มเติมอีกจากหน่วยต้นสังกัด รวมถึงเงินสินไหมทดแทนประกันชีวิต

และจากการที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงรับทราบสาเหตุเรื่องมีพลทหารเสียชีวิตจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในระดับกองทัพบก ขึ้นเพื่อดำเนินการสอบสวนผู้บังคับหน่วยต้นสังกัด และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่มิได้รายงานสาเหตุการเสียชีวิตให้กองทัพบกทราบโดยทันที และจะดำเนินการทางวินัยต่อไป พร้อมกันนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวพลทหาร รชฎ ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม กองทัพบกเข้าใจในความรู้สึกของครอบครัวที่มีความกังวลเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ในส่วนของกองทัพบกก็อยากทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน ทั้งนี้ กำชับให้หน่วยต้นสังกัดให้ความร่วมมือกับทางพนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องการตรวจสอบข้อมูล พยานหลักฐาน ตรวจสอบพื้นที่ เพื่อให้สามารถคลี่คลายและทราบถึงสาเหตุของการเสียชีวิตให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย รวมถึงอำนวยความสะดวกในทุกด้าน เพื่อทำความจริงให้ปรากฎและสามารถตอบข้อกังวลใจของครอบครัวได้ในทุกเรื่อง ควบคู่ไปกับการดูแลช่วยเหลือครอบครัวให้ผ่านช่วงเวลาของความยากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้อย่างดีที่สุด