จับแล้ว! มือกระชากหัว ปมจองเบาะรถตู้ ตำรวจแจ้งข้อหาส่งฟ้องต่อศาลวันนี้

คลิปหญิงสาวคนหนึ่ง กำลังก้าวขึ้นบันไดเลื่อนรถไฟฟ้า ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ถูกหญิงคู่กรณีกระชากผมและลากหญิงสาวเกือบจะหงายหลัง โดยที่หญิงที่ถูกทำร้ายไม่ได้ตอบโต้เลย ขณะเกิดเหตุมีคนหยุดดูเหตุการณ์ แต่ก็ไม่มีใครช่วยหญิงสาวผู้เสียหายเลย

ล่าสุด ช่วงเช้าที่ผ่านมา หญิงก่อเหตุกระชากศีรษะเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท สอบปากคำเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน ขึ้นมาบันทึกภาพข้างบน ก่อนไล่กลับให้ลงไปรอข้างล่าง

มีรายงานว่า ชุดสืบสวน สน.พญาไท ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุและไล่ตามเส้นทางที่ผู้ต้องหาเดินทางจนกระทั่งทราบว่า หญิงคนดังกล่าวเป็นเจ้าของร้านแห่งหนึ่ง จึงให้ชุดสืบสวนไปเชิญตัวมาสอบปากคำที่ สน.เมื่อวานนี้

เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุในคลิปจริง โดยสาเหตุที่ทำลงไปเนื่องจากมีอารมณ์โมโห ที่ขณะขึ้นรถตู้ คู่กรณีนั่งติดริมประตูซึ่งเป็นที่นั่งที่คนขึ้นรถตู้คนสุดท้ายคือตนควรจะได้นั่ง แต่คู่กรณีกลับมาแย่งนั่ง ก่อนจะมีปากเสียงกันและก่อเหตุดังกล่าว

ด้านพันตำรวจโทพนม เชื้อทอง รองผู้กำกับการสอบสวนสน. พญาไท เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ได้นำตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติม ในประเด็นที่พนักงานสอบสวนสงสัย ก่อนจะนำตัวไปส่งฟ้องศาลแขวงดุสิตภายในวันนี้

ส่วนที่ว่าจะมีการไกล่เกลี่ยกันระหว่างผู้เสียหายกับคู่กรณีหรือไม่นั้นต้องสอบถามความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายก่อน

 ทั้งนี้ ผู้เสียหายอยู่ระหว่างเดินทางมาให้ปากคำตำรวจ สน.พญาไท เช่นกัน หลังตำรวจนำหญิงที่ก่อเหตุมาสอบปากคำอยู่

สำหรับคดีนี้ พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า พนักงานสอบสวน แจ้ง 2 ข้อหา กับผู้ต้องหาในความผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ตามมาตรา 295 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในความผิดฐาน “ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า” ตามมาตรา 393 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

รองโฆษก ตร. ฝากเตือนประชาชนอย่าใช้กำลังในการตัดสินปัญหา ควรตั้งสติและใช้สันติวิธีเข้ามาแก้ไข เพราะเมื่อใช้กำลังทำร้ายซึ่งอาจนำมาถึงความเสียหายทั้งต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน หากเกิดความเสียหายดังกล่าวขึ้น ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย