ตำรวจปอศ. รวบแก๊งปลอมเอกสารบัตรเครดิต รูดห้องพักโรงแรมตัวเมืองอุดร พร้อมไล่ล่าอีก 4 คน ด้าน ผกก.5 บก.ปอศ. ฝากเตือนภัย! ธุรกิจโรงเเรม ควรระวังภัยดังกล่าว อาจตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพชาวต่างชาติ

ที่ บก.ปอศ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ.สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.ธนัยวุฒิ กมลวานนท์ สว.กก.5 บก.ปอศ. จับกุมนายหลิว ฉี้ จง สัญชาติจีน และนายทัพพ์ปภพ หรือนาวิน เรืองประดิษฐ์ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 843-844/2562 ลงวันที่ 12 มิถุนายน ในฐานความผิด "ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมฯ ,ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ,ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ ,ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ" โดยจับกุมได้ที่คอนโด ซอยสุขุมวิท 27 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา

ด้านพ.ต.อ. ภาดล กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ว่ามีการใช้บัตรเครดิตปลอมซื้อสินค้าและบริการที่โรงแรมในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ทำรายการช่วงเดือนธันวาคม 2561 ถึงเดือนมกราคม 2562 โดยทำรายการผ่านเครื่องรูดบัตรเครดิตในระบบคีย์อิน คือกดรหัสบัตร 16 หลัก วันหมดอายุ และรหัส cvv (ด้านหลังของบัตร) ที่เครื่องโดยไม่ต้องรูดบัตร ซึ่งมีธุรกรรมต้องสงสัยจำนวน 144 รายการ รวมยอดเงินจำนวน 13,276,107 บาท จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนทำการแกะรอยสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ประกอบไปด้วย นายธนาวุฒิ อิศรางกรู ณ อยุธยา เจ้าของโรงแรม ,นายศักดา พงษ์เภตรา ผู้จัดการโรงแรม ,นางสาวปาณิศา ซี่โฮ่ พนักงานงานโรงแรม จนพบว่ามีการทำเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่กันชัดเจน

โดยขบวนการนี้มี 9 คน ซึ่งมีนายหลิว ฉี้ จง สัญชาติจีน เป็นผู้จัดหาบัตรเครดิตปลอม และนายทัพพ์ปภพ เรืองประดิษฐ์ เป็นผู้นำบัตรเครดิตมารูดระบบคีย์อินเป็นค่าจองที่พักล่วงหน้า รวมทั้งมีเจ้าของโรงแรม พนักงานโรงแรม ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการธุรกรรมเกี่ยวข้อง จึงได้ทำการจับกุมโดยจับกุมนายหลิว ฉี้ จง และนายทัพพ์ปภพ ได้ที่คอนโดย่านคลองเตย ส่วนเจ้าของโรงแรม พนักงานโรงแรม อีก 3 คน ได้เชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหา ยังเหลือผู้เกี่ยวข้องอีก 4 คน ที่เป็นผู้รับโอนเงิน ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตาม

ผกก. 5บก.ปอศ. กล่าวว่า โดยวิธีการของขบวนการนี้เริ่มจากมีผู้จัดหาบัตรเครดิตปลอมให้กับทางโรงแรมรูดบัตรระบบคีย์อินจำนวนเงินหลักหมื่นถึงแสนบาทต่อครั้ง อ้างว่าเป็นค่าจองกรุ๊ปทัวร์ล่วงหน้าจากต่างประเทศ มีผู้จัดเตรียมสำเนาหน้าบัตรเครดิต สำเนาหน้าพาสปอร์ต แบบฟอร์การจองห้องพัก เอกสารทั้งหมดมีชื่อตรงกัน ซึ่งชื่อนั้นถูกแอบอ้างว่าเป็นลูกค้ากรุ๊ปทัวร์ เพื่อเป็นหลักฐานให้กับโรงแรมเมื่อธนาคารขอดูเอกสารประกอบการจ่ายเงิน โดยผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินจากเงินที่ธนาคารโอนให้กับทางโรงแรม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ ก่อนขยายผล ทั้งนี้ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังเจ้าของธุรกิจโรงแรมหากพบเห็นการกระทำดังกล่าว สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ จึงได้แจ้งข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริง โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริงหรือเพื่อใช้ประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใด , ร่วมกันใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม อันได้มาโดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น,ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่ผู้อื่นหรือประชาชน ,ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบตามมาตรา 269/5 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด"