หลังกลุ่มตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ อ.หนองบัวระเหว รวม 14 คน ถูกสั่งดำเนินคดีเข้าไปบุกรุกทำกินในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติไทรมาตั้งแต่ปี 2560 จนศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิพากษาให้จำคุกกลุ่มชาวบ้านทั้ง 14 คน คนละไม่น้อยกว่า 4 เดือน และ ปรับรายละ 4 หมื่นบาท ชาวบ้านจึงได้พากันยื่นขออุทธรณ์สู้คดีวอนขอความเป็นธรรมมาต่อเนื่อง เพื่อให้กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่อ้างว่า ได้ทำกินมาก่อนมีการประกาศพื้นที่เขตอุทยานฯ จนเข้ามาทับที่ทำกินชาวบ้าน มานานกว่า 2 ปี จนชาวบ้านตัดสินใจเข้าไปปลูกไร่มันสำปะหลังในพื้นที่ ซึ่งตนเองเคยทำกินมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ก่อนถูกจับดำเนินคดี ล่าสุด วันนี้ที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ ศาลอุทธรณ์ได้นัด 1 ใน 14 ชาวบ้านที่ถูกสั่งดำเนินคดีจำคุกของศาลชั้นต้นดังกล่าว เพื่อมาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้กับ น.ส.นิตยา ม่วงกลาง ชาว อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นตัวแทนนักปกป้องสิทธิที่ทำกินของราษฎรในพื้นที่ด้านที่ดิน เป็นรายแรก

ซึ่งในการเดินทางมาฟังคำพิพากษาของ น.ส.นิตยา ที่หน้าศาลจังหวัดชัยภูมิ ต่างมีตัวแทนชาวบ้าน และญาติพี่น้องในพื้นที่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ และตัวแทนกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน พร้อมคณะทนายที่ปรึกษาเดินทางมาร่วมรอให้กำลังใจที่บริเวณหน้าศาล พร้อมนำทั้งพานบายศรี ด้ายสายสิณ มาทำพิธีผูกข้อต่อแขนเพื่อให้กำลังกับ น.ส.นิตยา กว่า 30 คน รวมทั้งมีกล่องกระดาษเพื่อร่วมรับบริจาคสมทบทุนเพื่อนไทรทอง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากนโยบายทวงคืนผืนป่าจากรัฐในครั้งนี้ด้วย

น.ส.นิตยา กล่าวว่า ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาระหว่างที่กลุ่มชาวบ้านทั้งหมด 14 คน ที่ถูกดำเนินคดีในครั้งนี้ ต่างได้รับความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะมาช่วยสู้คดีจำนวนมาก และต้องไปหาหยิบยืมหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายค่าเดินทางมาสู้คดีมาศาล ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านทุกคนที่ถูกดำเนินคดี และได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐ ก็ได้รับความลำบากเดือดร้อนตามมาอีกเป็นจำนวนมากด้วย จึงอยากให้รัฐบาลเร่งหามาตรการการแก้ไขปัญหาในจุดนี้ที่ยั่งยืนตามมากกว่าที่เป็นในปัจจุบันนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งยังมีผู้ได้รับผลกระทบในกรณีที่เกิดขึ้นนี้อีกจำนวนมากในภาคอีสาน และครั้งนี้ในชั้นศาลอุทธรณ์นัดมาฟังคำพิพากษา ก็รู้สึกกังวัลใจอยู่บ้าง หลังศาลชั้นต้นตัดสินให้จำคุก 4 เดือน ปรับ 4 หมื่นบาทมาแล้ว แต่ก็ได้กำลังใจจากเพื่อนชาวบ้านไทรทองมาผูกข้อต่อแขนให้กำลังใจครั้งนี้ก็จะขอยืนหยัดสู้ต่อไป

ล่าสุดวันนี้ (15 พ.ค.62) ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนคำพิพากาษตามเดิม ยืนโทษตามศาลชั้นต้นอีกครั้งให้ น.ส.นิตยา มีโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 4 หมื่นตามเดิม ก่อนที่ น.ส.นิตยา กล่าวว่า ก็น้อมรับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ซึ่งต่อไปก็เป็นขั้นตอนขอยื่นประกันตัว เพื่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาได้อีกเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อขอความเป็นธรรมให้ถึงที่สุดตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป

 

Cr.สุทธิพงศ์/ชัยภูมิ