ตำรวจสงขลา จับหญิงชาวเมียนมา หลังนำศพทารกเพศชาย ยัดใส่ถุงพลาสติกมาทิ้งไว้ในบ่อขยะ อ้างคลอดกระทันหัน แต่เด็กตาย

หญิงชาวเมียนมาอายุ 30 ปี ถูกตำรวจภูธรหาดใหญ่ จับกุมตัวได้ที่บ้านพักคนงานแห่งหนึ่ง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมของกลางเป็นผ้านวมเปื้อนเลือด 1 ผืน หลังเป็นคนนำศพทารกเพศชาย อายุประมาณ 7 เดือน ยัดใส่ถุงพลาสติกสีดำ ไปทิ้งในบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยยังมีรกและสายสะดือติดคาอยู่ แต่มีชาวบ้านที่ของเก่ามาพบ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

ตำรวจภูธรหาดใหญ่ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหา อ้างว่า 4 โมงเย็นวานนี้ นอนอยู่ในห้องพักตามลำพัง แล้วเกิดคลอดลูกกระทันหัน ปรากฏว่าเมื่อคลอดอกมา เด็กไม่มีเสียงร้อง นอนแน่นิ่ง ก่อนพบว่า เสียชีวิต จึงตกใจกลัวทำอะไรไม่ถูก ใช้ผ้าห่อศพเด็กนำไปทิ้งในถังขยะ คิดว่ารถเก็บขยะจะมาเก็บไปทิ้งอีกต่อหนึ่งที่บ่อขยะดังกล่าว

เบื้องต้น ตำรวจต้องรอผลการชันสูตรศพจากแพทย์ก่อนว่า เด็กเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในท้อง หรือเสียชีวิตหลังจากที่คลอดออกมาแล้ว คาดว่า จะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์

ทั้งนี้ ทีมข่าวสอบถามผ่านล่าม ทราบว่า ผู้ต้องหามีสามีเป็นชาวเมียนมา ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานเดียวกัน แต่แยกกันอยู่ มีลูกมาแล้ว 1 คน อายุ 9 ปี อยู่ที่ประเทศเมียนมา ส่วนลูกคนนี้เป็นคนที่ 2

จับแม่ชาวเมียนมานำศพทารกยัดใส่ถุงทิ้งบ่อขยะที่สงขลา อ้างคลอดกระทันหันแล้วตาย