ชายใน จ.ศรีสะเกษ ถูกญาติทำพิธีเผาศพไปแล้ว แต่กลับพบว่ายังมีชีวิต ระบุถูกแย่งบัตรประชาชนไปทำให้เข้าใจผิด
ชาวบ้านในตำบลเหล่ากวาง อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ พา นายสาคร สาชีวะ อายุ44ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน กรณีที่ญาติพี่น้องได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพชายที่เชื่อว่าเป็นนายสาคร แต่ภายหลังพบว่า นายสาครยังมีชีวิตอยู่
โดยญาติได้นำเอกสารราชการมาแสดง พร้อมเล่าว่า ก่อนหน้านี้ ตำรวจ สน.นางเลิ้ง โทรศัพท์มาแจ้งว่าให้ไปรับศพของนายสาครที่โรงพยาบาลวชิระ โดยระบุว่า เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อในทางเดินอาหาร ที่ห้องพักย่านราชดำเนิน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีหนังสือรับรองการตายลงวันที่ 21 พฤษภาคม และมีใบมรณบัตรสำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตพระนครมาให้
แต่เมื่อญาติขอดูศพ พบผิดสังเกตที่ฟันของศพที่ยื่นออกมา ทั้งที่นายสาครฟันหลอด้านหน้า ซึ่งได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นเพราะศพกำลังขึ้นอืด ทำให้ฟันผิดรูปไป จึงนำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีจนเป็นที่เรียบร้อย
แต่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา นายสาคร ได้กลับมาที่บ้าน สร้างความตกใจให้ญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก
ด้านนายสาคร เล่าว่า ไปทำงานบนเรือประมงที่จังหวัดนครศรีธรรมราชตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม ปีที่ผ่านมา ระหว่างนั้นได้มีชายชาวเมียนมาที่ทำงานบนเรือด้วยกันแย่งเอาบัตรประชาชนหนีไป ซึ่งได้ไปแจ้งความบัตรหายและขอทำบัตรใหม่ไว้แล้ว
จากนั้นทำงานต่ออยู่อีกประมาณ 1 ปี 2 เดือน จึงกลับมาบ้าน จึงพบว่าญาติได้จัดงานเผาศพตนเองไปแล้ว เข้าใจว่าน่าจะเป็นชาวเมียนมาคนที่แย่งบัตรประชาชนของตนไป และเกิดเสียชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดคิดว่าเป็นคนเดียวกับในบัตรประชาชน
ด้านผู้ใหญ่บ้าน เตรียมพานายสาครไปพบกับนายอำเภอโนนคูณ เพื่อรายงานเรื่องนี้ และขอให้พิจารณาช่วยเหลือ แก้ไขข้อมูลเอกสารราชการใหม่เพื่อให้นายสาครดำเนินชีวิตต่อไปได้