เจ้าบ่าววัย 17 ปี พร้อมญาติเข้าให้ปากคำตำรวจแล้ว หลังถูกแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์ เบื้องต้นให้การรับสารภาพ แต่ไม่มีเจตนาข่มขืน เนื่องจากตั้งใจหวังอยู่กินกันฉันสามีภรรยา
เจ้าบ่าววัย 17 ปี พร้อมด้วยทนายความ และญาติ เข้าให้ปากคำกับตำรวจภูธรเขาพนม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีพรากผู้เยาว์ โดยทนายความนำหลักฐานภาพถ่ายในวันสู่ขอมาเป็นหลักฐาน แสดงเจตนารมณ์ของฝ่ายชายที่หวังจะอยู่กินกับฝ่ายหญิง
หลังที่ผ่านมา ฝ่ายชายได้จัดงานแต่งงานกับเจ้าสาวที่ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน แต่วันงานไม่มา อ้างว่าหาสินสอนไม่ครบ ทางญาติฝ่ายเจ้าสาวจึงแจ้งความ ฟ้องร้องเสียค่าเสียหาย และไม่รับขอขมาจากฝ่ายเจ้าบ่าว
เบื้องต้น เจ้าตัว ให้การยอมรับว่า ได้พาฝ่ายหญิงไปจริง แต่ไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเรา เนื่องจากรักด้วยความจริงใจ และอยากอยู่กินฉันสามีภรรยา จึงพยายามทำทุกวิถีทาง แม้เข้าไปขอขมาพ่อแม่ของฝ่ายหญิงแล้ว แต่ถูกปฏิเสธ ทั้งนี้ฝ่ายหญิงได้โทรศัพท์มาหา แต่พี่สาวเป็นคนรับสายจึงยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน
อย่างไรก็ตาม ทนายความ ระบุว่า ฝ่ายชายไม่น่าจะมีความผิดในข้อหาพรากผู้เยาว์ เพราะได้มีการพาผู้ใหญ่มาสู่ขอฝ่ายหญิง ส่วนฝ่ายหญิงมีอายุเกิน 15 ปี แล้ว และฝ่ายชายไม่เคยมีภรรยามาก่อน ด้านพนักงานสอบสวน เตรียมนำตัวส่งฟ้องศาลในวันเดียวกันด้วย