เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุความรุนแรงจังหวัดชายแดนใต้ ค้นหาอาวุธที่ซ่อนในป่า แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เผลอ ผู้ต้องสงสัยหยิบปืนจากจุดที่ซ่อนไว้ยิงใส่เจ้าหน้าที่จนเกิดเหตุการณ์ปะทะ สุดท้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานี ทำการปิดกั้นพื้นที่ ก่อนเข้าตรวจสอบ ภายในสวนยาง บ้านจือแรนิบง หมู่ 4 ตำบลปะกาฮะรัง อำเภอเมืองปัตตานี ซึ่งเป็นจุดที่มีการปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 43 กับ นายเปายี ตาสะเมาะ อายุ 44 ปี ก่อนที่นายเปายี จะถูกวิสามัญ จนเสียชีวิตตรงจุดดังกล่าว

โดยก่อนเกิดเหตุดังกล่าว พันเอกหาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 43 พร้อมกำลังทหารพราน 40 นาย ได้นำตัว นายเปายี ที่ได้ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2560 ไปชี้จุดและค้นหาปืนของกลาง แต่ระหว่างตรวจค้น นายเปายี อาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่เผลอวิ่งไปหยิบปืนที่ซ่อนอยู่ในพงหญ้า ยิงใส่เจ้าหน้าที่ 1 นัด ก่อนหนีข้ามคลองไปหลบซ่อนตัวในป่า และ ใช้ปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่อีก จึงเกิดยิงปะทะกันขึ้น ทำให้นายเปายีถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญดังกล่าว โดยมีอาวุธปืนขนาด .38 มม. ตกอยู่ใกล้มือด้านขวาของผู้ตาย

ขณะที่ พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะเจ้าหน้าที่กำลังค้นหาปืนของกลาง นายเปายีได้อาศัยจังหวะหยิบปืนพกสั้นที่ซุกซ่อนไว้ในพงหญ้าใกล้จุดดังกล่าวยิงใส่เจ้าหน้าที่

ก่อนวิ่งหลบหนีกระโดดลงน้ำข้ามคลองไปยังฝั่งตรงข้าม เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามและยิงตอบโต้ หลังเสียงปืนสงบเข้าไปตรวจสอบพบว่านายเปายีเสียชีวิต และปืนพกสั้นตกอยู่ในมือ จากการวิเคราะห์เหตุที่นายเปายีตัดสินใจยิงต่อสู้และหลบหนีอาจเป็นเพราะเกรงกลัวการร่วมรับผิดในกรณีระเบิดห้าง บิ๊กซีปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องป้องกันตัว

สำหรับนายเปายี เป็นผู้ต้องสงสัยที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีร่วมกำลังร่วม 3 ฝ่าย ได้บังคับใช้กฎหมายควบคุมตัวเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึก พบว่าเป็นผู้ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อเหตุรุนแรงคือ นายสุดิง มามะ และพวก บริเวณหมู่ 5 ต.ปะกาฮะรัง ซึ่งจากการสอบสวนนายเปายีได้ยอมรับ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดได้ที่บ้านพักก็เป็นรถที่ใช้ก่อเหตุลอบวางระเบิดห้าง บิ๊กซีปัตตานี

วิสามัญฯกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เชื่อมโยงระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานี