ศาลอนุมัติหมายจับมือวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก ไม่เชื่อก่อเหตุคนเดียว

พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะพนักงานสอบสวน นำคำร้องพร้อมสำนวนคดี เกือบ 20 แฟ้ม เดินทางมาขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษก ออกหมายจับนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผู้ต้องสงสัย วางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้าเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมาจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย

ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับ นายวัฒนา 3 ข้อหา คือ มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง ทำให้เกิดระเบิด และพยายามฆ่า

พลตำรวจเอกศรีวราห์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นฝ่ายความมั่นคงยังไม่ได้ประสานส่งตัวนายวัฒนาให้ตำรวจ จึงยังไม่ได้สอบปากคำ แต่มีความเป็นไปได้ว่านายวัฒนาไม่ได้ก่อเหตุคนเดียว แต่ขณะนี่ยังไม่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลอื่น แต่จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเป็นคนมีความรู้ เป็นอดีตวิศวกรและเคยไปทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนจะเป็นผู้ที่ประกอบระเบิดเองหรือไม่ยังไม่ยืนยัน และยังไม่ชี้ชัดว่าจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ แม้จะพบสัญลักษณ์ทางการเมืองภายในบ้านของนายวัฒนาก็ตาม

มีรายงานว่าจากการสอบปากคำนายวัฒนา ให้การรับสารภาพเหตุว่า ปมในการก่อเหตุมาไม่พอใจผลงานรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร โดยก่อเหตุมาแล้ว 6 ครั้ง ครั้งแรกก่อเหตุระเบิดที่หน้าโรงภาพยนต์เมเจอร์รัชโยธิน ปี 2550 จากนั้นได้ก่อเหตุซ้ำอีกหลายครั้งจนกระทั่งมาก่อเหตุที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯจนถูกจับกุมได้ในที่สุด แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่า นายวัฒนา จะก่อเหตุเพียงคนเดียว เพราะระยะเวลาก่อเหตุตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน มีห้วงเวลานาน 10 ปี

เบื้องต้นนายวัฒนารับสารภาพ ว่า ได้ซื้อดินดำที่ร้านค้าย่านสะพานพระราม 7 เพื่อนำมาประกอบระเบิด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังควบคุมตัวภรรยาของนายวัฒนาไปสอบสวนขยายผลด้วย

ขณะที่เมื่อช่วงบ่าย เกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าองค์การยูเนสโก ริมถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย หลังพนักงานตัดแต่งกิ่งต้นไม้กรุงเทพมหานคร มาตัดแต่งกิ่งบริเวณริมฟุตบาท และพบถุงสีส้มซุกอยู่ใต้ต้นชา หลังป้ายรถเมล์ จึงหยิบออกมา และขณะจะเปิดถุงได้ทำตกพื้น 3 ครัั้งจึงเกิดการระเบิดเสียงดังสนั่น เสก็ดระเบิดทำให้นางศิริวรรณ ศรีเพ็ง บาดเจ็บที่ต้นขา นางน้ำหวาน สุขกลิ่น บาดเจ็บที่บริเวณขาอ่อน ส่วนเพื่อนพนักงานอีก 2 คนมีอาการหูอื้อ

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ระเบิดดังกล่าวไม่ได้ต่อวงจรอิเล็คทรอนิกส์ แรงระเบิดไม่รุนแรง เน้นให้เกิดเสียงดัง คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นนำมาวางทิ้งไว้ไม่ใช่ก่อเหตุเพื่อหวังผลสร้างสถานการณ์ให้กระทบต่อความมั่นคง