ชาวบ้านสุดทน บุกวัดล้อมจับพระวัย 50 ลวงเด็กหญิงวัย 13 ขืนใจ ให้เงิน 200 ปิดปาก ด้านพ่อเด็กเล่าทั้งน้ำตา เคยบอกรักเหมือนลูกหลาน ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้

จากกรณีชาวบ้านเกือบ 30 คน รวมตัวกันปิดล้อมกุฏิพระลูกวัดแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 15 เม.ย.67 เพื่อไม่ให้หลบหนีหลังก่อเหตุล่อลวง ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี มาข่มขืนภายในกุฏิจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะให้เงิน 200 บาท เป็นค่าปิดปากไม่ให้บอกใคร

ล่าสุดวันที่ 16 เม.ย.67 ชาวบ้านเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์นี้สร้างความคับแค้นใจอย่างมาก ทันทีที่ทราบเรื่องจึงรีบพากันไปปิดล้อมกุฏิไว้ ก่อนจะเกิดเหตุชุลมุนเล็กน้อย กระทั่งตำรวจมาถึงจึงจับสึกนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก และตรวจสารเสพติดพบฉี่ม่วง ขณะที่ทางญาติก็ได้พา ด.ญ.สวย ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพบร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ แพทย์จึงให้ยาคุมและยาต้านฉุกเฉินกินป้องกันไว้ก่อน

ญาติของ ด.ญ.เอ กล่าวด้วยความคับแค้นใจว่า ด.ญ.เอ เรียนอยู่ชั้น ม.1 กำลังจะขึ้น ม.2 พ่อแม่แยกทางกัน ปัจจุบันอาศัยอยู่กับพ่อและน้องชาย ฐานะความเป็นอยู่ลำบาก ส่วนเหตุถูก “พระ ท.” อายุ 50 ปี ที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันล่วงละเมิดทางเพศ เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เรื่อยมาจนถึงวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา รวม 4 ครั้ง

โดยครั้งแรก “พระ ท.” เรียก ด.ญ.เอ ให้ไปหาที่กุฏิ ถามว่ามีเงินใช้มั้ย น้องบอกไม่มี พระก็ลุกไปปิดไฟแล้วเดินมากอด ล่วงละเมิดภายนอก น้องตกใจขัดขืน เลยให้เงินมา 200 ปล่อยกลับบ้านไป ครั้งที่ 2 ต้นเดือนมีนาคม “พระ ท.” ออกอุบายให้ ด.ญ.สวย มาเอาเงินอีกตอนประมาณ 3 ทุ่ม และว่าจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว แต่พอน้องไปถึงกลับถูกบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แล้วให้เงินมา 300 บาท สั่งไม่ให้บอกใคร ครั้งที่ 3 ก็ล่อลวงมาขืนใจอีก และครั้งที่ 4 ถูกล่วงละเมิดภายนอก จนน้องทนไม่ไหวไปพูดเรื่องนี้กับเพื่อน เพื่อขอให้พามาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ส่วนที่ไม่กล้าบอกพ่อแต่แรก ก็เพราะกลัวพ่อจะด่า กลัวว่าพ่อจะผิดหวัง

ขณะที่พ่อของ ด.ญ.เอ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองไว้ใจ “พระ ท.” เพราะอยู่หมู่บ้านเดียวกัน รู้จักและสนิทกัน คิดว่าบวชเป็นพระแล้วก็คงจะดีขึ้น และ “พระ ท.” ก็เคยพูดกับตนว่า “มึงไม่ต้องเป็นห่วง ลูกมึงก็เหมือนหลานกู กูจะดูแลให้ พ่อมึงเคยเลี้ยงกูมา กูจะตอบแทนบุญคุณ” แต่ทว่ากลับมาทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้ รู้สึกแค้นใจ สงสารลูกมากๆ และจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้มันติดคุกชดใช้กรรม

ชาวบ้าน เผยอีกว่า ก่อนที่ “พระ ท.” จะบวชนั้นเคยมีพฤติกรรมเสพยาบ้า พอบวชเป็นพระช่วงแรกๆ ก็มีวัยรุ่นขี้ยาแอบมาหาที่กุฏิไม่ขาดสาย และชอบมองผู้หญิงด้วยสายตาไม่สำรวม จนบางคนไม่มาทำบุญที่วัด เพราะไม่อยากเห็นหน้า นอกจากนี้ยังพบว่า “พระ ท.” ได้มีการปั้นยาลูกกลอน “สมุนไพรปึ๋งปั๋ง” เพิ่มพลังทางเพศ ที่เคยเป็นข่าวโด่งดัง เอาไว้กินเองอีกด้วย อ้างว่ากินแก้ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ

ทั้งนี้ระหว่างที่ชาวบ้านปิดล้อมกุฏิ ป้องกันไม่ให้หลบหนี และรอให้ตำรวจมาคุมตัวไปดำเนินคดีที่โรงพัก ก็ได้เกิดการชุลมุน มีชาวบ้านที่รู้สึกคับแค้นใจใช้เท้ากระโดดถีบ “พระ ท.” ขณะจะเดินเข้ากุฏิ ก่อนชาวบ้านอีกคนจะห้ามเอาไว้ เพื่อไม่ให้เข้าไปทำร้ายซ้ำ