"ทราย เจริญปุระ" เล่าย้อนวันวาน ถึงพระเอกคู่บุญ "เมฆ วินัย" หลังได้รับข่าวเศร้า

วันที่ 21 มี.ค. 2567 จากกรณี อดีตดารานักแสดงชื่อดัง "เมฆ - วินัย ไกรบุตร" พระเอกร้อยล้านในตำนาน ได้เสียชีวิตลง จากภาวะความดันตก และติดเชื้อในกระแสเลือด หลังต่อสู้โรคร้าย มานานกว่า 5 ปี ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

นักแสดงคู่บุญอย่าง "ทราย เจริญปุระ" ที่ประสบความสำเร็จมาด้วยกันจากเรื่อง "นางนาก" ก็ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมของตนเอง หลังทราบข่าวเศร้านี้ว่า เราทำงานกับพี่เมฆบ่อยมาก น่าจะเป็นนักแสดงชายที่ได้ร่วมงานกันบ่อยที่สุด ทั้งอตีตา รอยไถ เสือสั่งฟ้า แต่เรื่องแรกก็คือนางนาก

 

 

ยังจำวันที่เด๋อๆด๋าๆไปนั่งรอแคสบทที่ออฟฟิศพี่อุ๋ยแล้วเจอพี่เมฆที่มาแคสเหมือนกัน ได้อวยพรกันให้ต่างคนต่างโชคดี ขอให้ได้งานนี้กันนะ ในช่วงเวลานั้น ถ้าได้เล่นนางนากก็จะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เราทั้งสองคนได้มีผลงานที่แปลกออกไป เราเองไม่เคยเล่นหนังเลย ทำงานมาได้3-4ปี จะเป็นเด็กสาวน่ารักก็ไม่ได้ จะไปต่อทางไหนก็ยังมองไม่เห็นทาง พี่เมฆเองยังพูดขำๆว่าจะออกจากวงการแล้วเนี่ย ไม่มีใครเรียกแล้ว

จริงๆตอนแรกบทอ้ายมากจะหลุดจากพี่เมฆไปเป็นนักแสดงท่านอื่นแล้ว ขนาดไปเทสฟิล์มกันแล้วเรียบร้อยกับอีกคน แต่สุดท้ายพี่อุ๋ยก็ตัดสินใจให้เป็นพี่เมฆ ทำงานกันไป ปลอบใจกันเองไป ว่านึกไม่ออกเลยนะ ว่าใครจะมาดูหนังที่คนตัวดำๆ ผมสั้นๆ นุ่งห่มสีมอๆเล่นกันอยู่แทบจะสองคนทั้งเรื่อง แต่ถ้าจะมีคนมาดู จะบังเอิญซื้อตั๋วหรือได้แจกฟรีมา ก็อย่าให้เขาด่าได้ ว่าพระนางมันเล่นแสนจะห่วยแตก เราก็เต็มที่กันเนอะ

พี่เมฆเป็นคนเต็มที่จริงๆ ไม่เกี่ยงงอน ตั้งแต่ตอนนางนากแล้ว และแกบอกว่าทุกเรื่องหลังจากนางนากคือของขวัญสำหรับแก สำหรับคนที่คิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เล่นอะไรในวงการแล้ว จะเรื่องอะไรเข้ามาแกสู้หมด เต็มที่แล้วจริงๆนะพี่นะ ขอบคุณมากๆและดีใจอย่างยิ่งที่เราได้ร่วมงานกัน

 

 

และนอกจากนี้ ทราย เจริญปุระ ยังเขียนข้อความต่ออีกว่า "น่าแปลกที่ภาพที่เราจำพี่เมฆได้กลับไม่ใช่ในบท แต่เป็นวันที่แม่เรากำลังขับรถพาไปกองนางนาก แล้วเจอรถสปอร์ตเล็กๆ คันนึงขับอยู่ข้างหน้า มุ่งไปทางเดียวกัน แม่บอกเนี่ย ตาเมฆเขาชมวิว เราซึ่งตอนนั้นไม่ได้ขับรถเองก็ถามแม่ว่าจริงเหรอ จำได้เลยเหรอ แม่บอกใช่ เขาขับเปิดกระจกกินลมนี่แหละ เดี๋ยวแม่จะแซงนะ ถนนเล็กๆ ที่สิงห์บุรีแบบนั้น แม่บีบแตรปี๊นแล้วแซงขึ้นไป กดกระจกเรียกเมฆ! แม่แซงละนะ พี่เมฆก็หัวเราะแล้วโบกมือให้นำไปก่อนเลย จำรอยยิ้มแกวันนั้นได้จริงๆ"