จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพวิดีโอพร้อมระบุข้อความว่า "ช่วยดูหน่อยค่ะ มันบอกเป็นช่าง ทีโอที มันมาตัดสายไฟกลางวันแสกๆ ไม่แน่ใจเลยถ่ายคลิปไว้ ทำงานอยู่เห็นพอดี ทรงโจร ที่หมู่บ้านปลีกไม้ 2 ต.บ้านใหม่ค่ะ" มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากถึงความกล้าของผู้โพสต์ที่เข้าไปถ่ายคลิปวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีผู้แสดงความคิดเห็นถึงชายในคลิปต้องเป็นคนร้ายลักสายไฟฟ้าแน่นอน

 

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 ก.พ.67 พ.ต.อ.ธรรศกร ก้อนทอง ผกก.สภ.บางแม่นาง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นิติธร จำปาดี รอง ผกก.สส.สภ.บางแม่นาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางแม่นาง ทำการสืบสวนติดตามหาคนร้ายตามโพสต์ดังกล่าว จนสามารถจับกุมตัว นายชำนาญ อายุ 44 ปี และนายพะยอม อายุ 47 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เส้นทองแดง แท่งสแตนเลส ยาวประมาณ 1 เมตร เสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ จับกุมตัวได้ที่ริมถนนสาธารณะ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงได้ตั้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 นางอริสรา พลเมืองดีได้ถ่ายภาพวิดีโอคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คนแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่องค์การโทรศัพท์มาตัดสายสัญญาณโทรศัพท์ไปที่หมู่บ้านปีกไม้ 2 หมู่ที่ 11 ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จว.นนทบุรี ซึ่งดูจากการแต่งกายและพฤติกรรมคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายมาลักตัดสายสื่อสาร เจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บางแม่นาง หลังทราบเหตุจึงได้ร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจากคลิปวีดีโอ ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายชำนาญ และนายพะยอม

 

ต่อมาวันนี้ 12 ก.พ. 67 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบบุคคลต้องสงสัยอยู่บริเวณป่าในพื้นที่ หมู่ 11 ต.บางแม่นาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบทันทีพบนายชำนาญ หลบอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง จึงได้บุกเข้าจับกุม ทำการสอบถามจนผู้ก่อเหตุรับสารภาพและชี้จุดที่นายพะยอมพักอาศัยซึ่งเป็นเพิงไม่มีเลขที่ จึงได้ทำการติดตามตัวพบผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในเพิงพักกับกลุ่มเพื่อนและได้เข้าควบคุมตัวทันที

 

จากการสอบถามนายพะยอม ผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ตนเพิ่งเข้ามาอาศัยอยู่แถวนี้ ยอมรับว่าก่อเหตุจริงเพิ่งทำมา 3-4 ครั้ง เงินที่ได้มาเอาไว้จ่ายค่าเช่าบ้าน

 

ด้านนายชำนาญ กล่าวว่า ตนเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ส่วนใหญ่ตนจะลักตัดสายเคเบิ้ลที่ถูกตัดทิ้งไว้ เป็นเศษที่ไม่เอาแล้วทิ้งไว้ข้างทาง ปกติจะไปกันสองคน แต่ละครั้งที่ไปตัดสายเคเบิ้ลจะนำไปขายได้เงินประมาณ 200-300 บาท เงินที่ได้ก็เอาไปซื้ออาหารกินเพราะอยู่กันหลายคน พวกตนตัดสายเคเบิ้ลไม่บ่อย ส่วนใหญ่จะเก็บของเก่าขาย ส่วนชุดที่ใส่ก่อเหตุเหมือนชุดเจ้าหน้าที่ TOT ก็เก็บของเก่ามา

 

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ได้ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุลักตัดสายเคเบิ้ลบริเวณดังกล่าวจริง และได้นำสายเคเบิ้ลที่ลักมาไปทำการเผาเพื่อเอาทองแดง จากนั้นนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ภายในซอยอิมพิเรียล อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นอกจากนั้นยังรับว่าเสพยาเสพติด จึงได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้ไปพบกับ นางสาว อริสรา อายุ 42 ปี คนถ่ายคลิป เธอเล่าว่า ตอนนั้นขณะที่ทำงานตามปกติ ก็เห็นคนก่อเหตุขี่รถวนไปมา 2 รอบ จากนั้นก็เห็นตอนปีนเสา จึงเข้าไปถามว่ามาทำอะไรกัน โดยคนก่อเหตุ อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ทีโอที จะมาวัดสายเพราะมีโจรมาตัดสายไปเยอะแล้ว ตนก็ไม่เอะใจอะไร แต่ก็ยังมองเขาอยู่เรื่อย ๆ แล้วพอเห็นว่าเค้าเอาคัตเตอร์มาตัดสายไฟ ก็เลยถ่ายคลิปไว้ โดยซูมดูว่าเขาทำอะไรกัน

 

ปรากฏว่า เห็นคนข้างบนตัดสายไฟแล้วหย่อนลงมาให้คนข้างล่าง เลยคิดว่าน่าจะเป็นโจรลักสายไฟแน่ เจ้าหน้าที่คงไม่มาทำแบบนี้ มีแต่มาต่อ ไม่มีเจ้าหน้าที่เคยมาตัดสายไฟ พอเห็นว่าคนก่อเหตุกำลังจะไป ก็เลยเดินไปใกล้ ๆ ตั้งใจจะไปถ่ายป้ายทะเบียนรถ เก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

ตอนนี้อยากฝากทุกคนให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เธอเองก็ไม่เคยเจอหรอกว่าโจรจะมาก่อเหตุกลางวันแสกๆ แบบนี้ มาเจอโดยบังเอิญ ประกอบกับดูข่าวมากเลยหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปไว้ แล้วเอาไปถามในกลุ่ม ถือว่าช่วยกันเป็นหูเป็นตา บ้านเมืองเราจะได้สงบสุข อย่างน้อยก็ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้เร็วขึ้น พอมีคลิปของเราเพียงข้ามวัน ก็สามารถจับคนร้ายได้แล้ว

ชื่นชมฮีโร่สาวจับโจรลักสายไฟหลวง สวมรอยเจ้าหน้าที่แต่ไม่รอด ทิ้งพิรุธจนเอ็นเกม